xs
xsm
sm
md
lg

อาจารย์สักยันต์ชาวอ่างทองโดนจีนหลอกไปสักแต่รุมทำร้ายอ่วม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


อ่างทอง - อาจารย์สักยันต์ชาวอ่างทองไปสักยันต์แดนมังกร ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้าย แถมไม่ได้ค่าจ้าง สูญเงินไปกว่า 2 แสนบาท แต่โชคยังดีได้เจ้าของร้านอาหารให้การช่วยเหลือพาไปส่งสนามบิน

นายยงยุทธ โตคีรี หรืออาจารย์ปี๊ป อายุ 31 ปี ที่บ้านเลขที่ 47/2 หมู่ที่ 3 ตำบลราชสถิตย์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง แต่โชคยังดีได้เจ้าของร้านอาหารให้การช่วยเหลือพาไปส่งสนามบิน เปิดเผยว่า ได้เปิดเป็นสำนักสักยันต์ อาจารย์ปี๊บ ศิษย์ปู่ฤาษีนารอดประทานพร เปิดสักยันต์ ลงนะหน้าทอง สักเสน่ห์เมตตา และถูกผู้ว่าจ้างให้เดินทางไปสักยันต์ในเมืองกวางโจวมประเทศจีน เป็นระยะเวลากว่า 1 เดือนเศษ

โดยก่อนเดินทางกลับทางผู้ว่าจ้างได้พาไปรับประทานอาหารในร้านแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในชนบทแล้วถูกกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 7-8 คนใช้สเปรย์พริกไทยฉีดเข้าที่ดวงตา และตรงเข้ารุมทำร้าย ด้วยการใช้อิฐทุบตามร่างกาย และใช้มีดแทงทำให้เสื้อยืดที่ใส่อยู่ด้านในขาดแต่ไม่มีบาดแผล จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โทรศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารกับทางบ้านได้รับความเสียหาย และต้องสูญเงินไปกว่า 2 แสนบาท

แต่ยังโชคดีที่เจ้าของร้านอาหาร ให้การช่วยเหลือนำตัว อาจารย์ปี๊บ ไปติดต่อกับทางกงสุลไทยในประเทศจีน และพาไปส่งที่สนามบิน พร้อมได้มอบโทรศัพท์มือถือของตนเองให้กับอาจารย์ปี๊ป ได้ใช้ติดต่อกับควบครอบครัวในระหว่างเดินทางกลับประเทศไทย

โดยตนเองได้รับการว่าจ้างจากนายอเล็กซ์ หรืออาเล่อ ให้เดินทางไปสักยันต์ที่ประเทศจีน เป็นเวลา 1 เดือน โดยให้ค่าจ้าง 150,000 บาท พร้อมออกค่าตั๋วเครื่องบินเดินทางไปกลับให้เรียบร้อย โดยการเดินทางไปสักยันต์เป็นไปอย่างเรียบร้อย ซึ่งตนเองได้ทำการสักยันต์ให้กับลูกค้าทุกคนโดยไม่มีปัญหาอะไร พอถึงวันที่ครบกำหนดกลับประเทศไทย นายจ้างของตนเองที่เรียกว่าเถ้าแก่ได้พาตนเองไปรับประทานอาหารในร้านอาหารแห่งหนึ่ง

ซึ่งตนเองสังเกตว่าอยู่ในชนบท และนายจ้างมีท่าทีลุกลี้ลุกลนมีลักษณะท่าทางแปลกไปจากเดิม ประกอบกับตนเองได้สังเกตเห็นว่ามีกลุ่มของ ชายฉกรรจ์ ประมาณ 7-8 คน มาวนเวียนอยู่ในพื้นที่ร้านอาหารดังกล่าว เมื่อตนเองเดินออกไปสูบบุหรี่บริเวณหน้าร้าน ได้มีชายฉกรรจ์ตรงเข้ามาใช้สเปรย์พริกไทยฉีดบริเวณใบหน้าเข้าที่ตาทั้ง 2 ข้าง ทำให้รู้สึกปวดแสบปวดร้อนตา จึงได้วิ่งหลบหนีไปตั้งหลัก

แต่ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวกับวิ่งตามเข้ามาใช้อิฐทุบตามร่างกายของตนเอง และพยายามใช้มีดแทงแต่ไม่เข้า ถูกเสื้อยืดคอกลมที่ใส่อยู่ด้านในจนฉีกขาดเกือบทั้งตัว และชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวยังพยายามที่จะแย่งโทรศัพท์มือถือและกระเป๋า ซึ่งภายในบรรจุพาสปอร์ตและของมีค่าที่สำคัญที่ตนเองเก็บไว้ ซึ่งในขณะนั้นตนเองคิดว่าคงจะต้องตายแน่นอน เนื่องจากชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวมีรูปร่างสูงใหญ่ ตนเองจึงได้ตัดสินใจขัดขืนต่อสู้พร้อมกับร้องเสียงดังให้คนช่วย

ซึ่งตนเองคิดอยู่ว่าจะต้องเอาชีวิตรอดกลับมาให้ได้เพื่อมาเจอแม่ ภรรยากับลูกสาวที่เพิ่งคลอดได้ 3 วัน ในประเทศไทยให้ได้ จนคนร้ายตกใจกลัวต่างขึ้นรถยนต์หลบหนีไป จากนั้นตนเองจึงได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าของร้านอาหารในช่วยติดต่อสถานกงสุลไทย และพาตนเองนำมาส่งที่สนามบิน โดยระหว่างทางได้เลี้ยงอาหารพร้อมกับมอบโทรศัพท์มือถือให้ 1 เครื่อง เพื่อใช้ในการติดต่อกับครอบครัวที่อยู่ในประเทศไทยระหว่างการเดินทาง

ซึ่งตนเองรอดมาได้ก็ถือว่าเป็นบุญ ส่วนเรื่องค่าจ้างนั้นก็ไม่ได้ แถมต้องเจ็บตัวเสียของอีกต่างหาก และขอให้ทุกคนคิดให้ดี หากถูกจ้างไปทำงานยังต่างประเทศให้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อนเพราะหากไว้ใจนายจ้างมากเกินไป ถ้าตนเองไม่ต่อสู้ขัดขืนก็คงจะเสียชีวิตอย่างไร้หลักฐานในต่างประเทศอย่างแน่นอน ซึ่งตนเองอยากจะขอบคุณเจ้าของร้านอาหารที่ช่วยเหลือ

และถ้ามีโอกาสอีกครั้งอยากจะเดินทางไปกราบขอบคุณเจ้าของร้านอาหารคนนี้ที่ได้ช่วยเหลือตัวเองให้เดินทางกลับประเทศไทย มาพบเจอแม่ ภรรยา และลูกที่เพิ่งเกิดมาลืมตาดูโลกได้อย่างปลอดภัย

ส่วนทางด้าน นางนันท์นภัส มงคลเอี่ยม อายุ 47 ปี แม่ของอาจารย์ปี๊บ กล่าวว่า หลังตนเองได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์จากลูกชายว่าถูกทำร้ายในต่างประเทศ ก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก และเป็นห่วงว่าลูกชายจะได้รับบาดเจ็บสาหัสมากน้อยเท่าไร จึงได้ประสานผู้สื่อข่าวในจังหวัดอ่างทอง ผ่านไปยังนายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองในการประสานกับทางกงสุลไทยในประเทศจีน จนสามารถเดินทางกลับมาได้อย่างปลอดภัย

ซึ่งตนเองไม่อยากให้ลูกชายได้เดินทางไปต่างประเทศอีกแล้ว เพราะว่ากลัวอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งตนเองรู้สึกดีใจ และอยากกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่ให้ช่วยเหลือลูกชาย และเจ้าของร้านอาหารที่ช่วยพาลูกชายมาส่งถึงสนามบินจนกลับมาถึงประเทศไทยได้อย่างปลอดภัยต่อไป




กำลังโหลดความคิดเห็น