หนุ่มเพี้ยนเกลียดกะเทยขึ้นสมอง ควงลูกซองกระหน่ำยิงตายคากระท่อม

หนองคาย - ตำรวจหนองคายรวบหนุ่มเพี้ยน ก่อเหตุอุกอาจบุกกระท่อมป่าสวนยาง ควงปืนลูกซองกระหน่ำยิงเยาวชนวัย 15 ปี ดับคาที่ สารภาพหน้าตาเฉยเกลียดตุ๊ด เหตุผู้ตายเป็นกะเทย เห็นแล้วทนไม่ได้ ถึงขั้นขโมยจักรยานยนต์เพื่อนและปืนลูกซองพ่อเพื่อนไปก่อเหตุ

ดึกวานนี้ (17 ม.ค. 61) พ.ต.ต.อธิศ แสนเภา สารวัตรสอบสวน สภ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย รับแจ้งเหตุคนถูกยิงเสียชีวิตที่กระท่อมสวนยางพารา บ้านคำโคนสว่าง ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.ท.ญ.เพียงหทัย สุพล หัวหน้าพิสูจน์หลักฐาน จ.หนองคาย นำเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่งไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมปูนชั้นเดียว ไม่มีประตู พบศพนายภัทรพล แสนคำ เยาวชนอายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 7 บ้านคำโคนสว่าง ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนบ้านโนนสะอาด ต.อุดมพร สวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงวอร์มขายาวสีกรมท่า ถูกอาวุธปืนลูกซองยิงเข้าที่ท้ายทอยและกลางหลัง เสียชีวิตภายในมุ้งที่เกิดเหตุ พบปลอกกระสุนปืนลูกซอง 3 ปลอก กระสุนลูกซอง 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบก.ภ.จ.หนองคาย และพ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.สส.ภ.จ.หนองคาย นำเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.หนองคาย และชุดสืบสวน สภ.เฝ้าไร่ จัดกำลังหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ จนกระทั่งเวลาประมาณ 02.00 น. เจ้าหน้าที่พบจักรยานยนต์คันหนึ่งเสียบกุญแจล้มตะแคงอยู่ริมถนนห่างจากกระท่อมที่เกิดเหตุมาประมาณ 500 เมตร แต่ไม่พบตัวบุคคล ต่อมาไม่นานเจ้าหน้าที่พบนายทวีศักดิ์ โพธิ์เลิง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 หมู่ 14 บ้านใหม่พัฒนา ต.อุดมพร อ.เฝ้าไร่ เดินวนเวียนอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุท่าทางมีพิรุธ ตามร่างกายมีบาดแผลจากอุบัติเหตุ จึงเข้าสอบถามและควบคุมตัวไว้ โดยนายทวีศักดิ์อยู่ในสภาพคล้ายคนเมา พูดจาวกวน ใบหน้ามีแผลถลอก สุดท้ายนายทวีศักดิ์จึงยอมรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือยิงผู้ตายกับมือ แล้วนำปืนลูกซองไปทิ้งในป่า เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายทวีศักดิ์ไว้แล้วตระเวนหาปืนลูกซองที่ใช้ก่อเหตุนานหลายชั่วโมงก็ยังไม่พบ


พ.ต.อ.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รองผบก.ภ.จ.หนองคาย กล่าวว่า สอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายทวีศักดิ์ได้ไปกินเหล้ากับเพื่อนที่บ้านดงหม้อทองใต้ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ห่างจากหมู่บ้านของผู้ตายเพียง 6 กิโลเมตร หลังจากเพื่อนเมาแล้วเผลอหลับ นายทวีศักดิ์ได้แอบขี่จักรยานยนต์ของเพื่อนและนำปืนลูกซองของพ่อเพื่อนซึ่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านไปด้วย แล้วมาลงมือก่อเหตุยิงผู้ตายเสียชีวิต เมื่อแม่ของผู้ตายทราบว่าลูกชายเสียชีวิตก็รีบพาลูกชายกลับเข้าบ้านในตัวหมู่บ้าน ระหว่างนั้นคาดว่านายทวีศักดิ์จะย้อนกลับมายังกระท่อมอีก เนื่องจากมีร่องรอยการรื้อค้น มีซองกาแฟถูกฉีกชงดื่ม และนายทวีศักดิ์ได้นำเสื้อแจ็กเกตของผู้ตายมาใส่ เป็นจังหวะเดียวกับที่ พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.สส.ภ.จว.หนองคาย นำกำลังย้อนกลับมายังที่เกิดเหตุอีกครั้งก็มาเจอนายทวีศักดิ์อยู่ในสภาพสวมกางเกงบ็อกเซอร์และเสื้อแจกเก็ตของผู้ตาย เดินวนเวียนอยู่ใกล้กระท่อมที่เกิดเหตุ และบอกตำรวจว่าเอาปืนลูกซองไปทิ้งในป่า ซึ่งนายทวีศักดิ์ยังมีประวัติต้องโทษคดีพกพาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะ ถูกจำคุก 2 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นานก็มาก่อเหตุอีก

ทั้งนี้ นายทวีศักดิ์ได้พูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่า ไม่รู้จักกับคนตาย รู้เพียงผิวเผินว่าเป็นกะเทย และเคยเห็นผู้ตายไปเต้นหน้าเวทีหมอลำละแวกบ้าน ตนเป็นคนไม่ชอบตุ๊ด เกลียดกะเทย หลังจากดื่มเหล้ากับเพื่อนได้ที่แล้ว เห็นเพื่อนเมาก็เลยเอาปืนของพ่อเพื่อน ขี่จักรยานยนต์เพื่อนมาตามถนนระหว่างบ้านคำโคนสว่าง-คำชิ ห่างจากกระท่อมของผู้ตายประมาณ 500 เมตร แต่ด้วยความเมาจึงเกิดอุบัติเหตุรถล้ม ตนจึงทิ้งรถแล้วถือปืนเดินกลับมายังกระท่อมซึ่งก่อกองไฟข้างกระท่อมไว้ จำได้ว่าเป็นกระท่อมของผู้ตาย จึงเข้าไปใช้ปืนกระหน่ำยิงผู้ตายที่นอนหันหลัง แล้วเดินออกมา ยอมรับว่าตนเป็นคนไม่ชอบกะเทย เห็นแล้วจะรู้สึกไม่ดี เลยลงมือก่อเหตุ

ด้านนายสมจิตร โพธิ์เลิง อายุ 74 ปี ตาของนายทวีศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า หลานชายของตนมีอาการทางจิตตั้งแต่เด็ก ชอบโกหก พูดจากลับกลอก เสพยาบ้า และติดสุรา เมื่อขอเงินตนไม่ได้ก็ขู่จะทำร้าย ตนก็คอยเตือนแต่ก็ไม่ฟัง ตนไม่รู้จักกับผู้ตายมาก่อน ไม่นึกว่าหลานชายจะก่อเรื่องขึ้น

ขณะที่นางอรุณี เทียมอาจ อายุ 51 ปี มารดาของผู้ตาย บอกว่าลูกชายเป็นลูกคนที่ 3 จากลูก 4 คน ลูกเป็นกะเทย แต่เรียนดี นิสัยดี เป็นที่รักของเพื่อนและครูที่โรงเรียน เคยเป็นตัวแทนโรงเรียนไปแข่งขันทักษะทางวิชาการและเล่นกีฬาตัวแทนนักเรียนทุกปี ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับใคร ไม่เคยมีศัตรู ทุกวันลูกชายจะนอนที่บ้าน แต่เมื่อคืนลูกชายขอมานอนเป็นเพื่อนตนกับน้องชายที่กระท่อมสวนยาง โดยกระท่อมจะกั้นปูนไว้ชั้นหนึ่ง ตนกับลูกคนเล็กนอนข้างใน

ลูกชายนอนในมุ้งเล่นโทรศัพท์อยู่ด้านนอก ไม่นานก็ได้ยินเสียงหมาเห่า ตนจึงบอกให้ลูกชายไล่หมา ลูกชายก็ทำเสียงไล่หมา ไม่นานก็ได้ยินเสียงเหมือนประทัด 3 ครั้งก็ไม่เอะใจ นึกว่าลูกชายจุดประทัดไล่หมาตามปกติ จนกระทั่งผ่านไปประมาณ 20 นาที ตนเรียกลูกชายก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับ จึงลุกมาดูก็เห็นลูกชายเสียชีวิตนอนแน่นิ่งเลือดไหลเต็มพื้น ด้วยความตกใจรีบพาลูกกลับเข้าตัวหมู่บ้านและแจ้งตำรวจดังกล่าว