ศาลปล่อยตัว-คืนเงินประกัน “ณิชา” แล้ว ยื่นขอใช้สิทธิเยียวยาต่อ

ตาก - ศาลพิจารณาคำร้องยกเลิกฝากขัง-ปล่อยตัวคืนเงินประกัน “ณิชา-สาววัย 24 แพะแก๊งคอลเซ็นเตอร์” แล้ว พร้อมเดินหน้าใช้สิทธิเยียวยาต่อ เตือนคนระวังอย่าทำบัตรประชาชนหาย เสี่ยงเกิดเหตุซ้ำรอยตนจนเดือดร้อนทั้งครอบครัว

วันนี้ (18 ม.ค.) นางสาวณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี พร้อมด้วยบิดา ได้เดินทางมารายงานตัวต่อศาลจังหวัดตากเป็นครั้งที่ 2 ตามหมายนัดเดิม หลังจากตำรวจภูธรจังหวัดตากได้ทำคำร้องเสนอต่อศาลยกเลิกคำร้องผัดฟ้องฝากขัง เนื่องจากการสืบสวนสอบสวนได้ความว่า น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ มิใช่ผู้กระทำความผิดในคดีนี้ น.ส.ณิชาเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงไม่จำเป็นต้องฝากขังผู้ต้องหาอีกต่อไป พนักงานสอบสวนจึงขออำนาจปล่อยตัว น.ส.ณิชา ได้รับเงินค่าประกันตัวคืน 80,000 บาท

จากนั้น น.ส.ณิชา พร้อมบิดา และนายจิระศักดิ์ สุดสังข์ ทนายความ ได้เข้าพบนายยงยุทธ ธรรมนิตยางกูร ยุติธรรมจังหวัดตาก ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดตาก ศาลากลางจังหวัดตาก เพื่อรับทราบสิทธิ และยื่นขอใช้สิทธิจากกองทุนยุติธรรม ผ่านสำนักงานยุติธรรมจังหวัดตาก

นายยงยุทธ ยุติธรรมจังหวัดตาก กล่าวว่า ทางกระทรวงยุติธรรมได้ติดตามคดีของ น.ส.ณิชามาตลอด เมื่อทราบว่า น.ส.ณิชาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีแก๊งโรแมนซ์สแกม และทราบว่า น.ส.ณิชาเดินทางมารายงานตัวที่ศาล จึงได้เชิญมารับทราบสิทธิที่พึงจะได้รับจากกองทุนยุติธรรรม

เบื้องต้น น.ส.ณิชาเข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือการดำเนินคดี ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรรมการช่วยเหลือประจำจังหวัดตาก โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดตากเป็นประธาน คณะอนุกรรมการชุดนี้จะพิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านค่าทนายความ ค่าเดินทาง ค่าที่พัก เป็นต้น และในส่วนการช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน มี รมต.กระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการอีก 15 คน เป็นผู้พิจารณา

น.ส.ณิชากล่าวว่า พฤติการณ์ของแก๊งโรแมนซ์สแกมน่ากลัว เพราะมีกลอุบายแยบยลทำให้เหยื่อหลงเชื่อ และโอนเงินเข้าบัญชี ทำให้ผู้บริสุทธิ์ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ขอให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังในการจัดเก็บเอกสารประจำตัว โดยเฉพาะบัตรประชาชน อย่าให้สูญหาย ตกไปอยู่ในมือของคนร้ายข้ามชาติได้ ไม่เช่นนั้นจะได้รับความเดือดร้อนเหมือนตน

“เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดิฉัน และครอบครัวได้รับผลกระทบมาก ทั้งในส่วนของงานประจำ และความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน แต่ได้รับกำลังใจจากครอบครัวและบุคคลใกล้ชิด ทำให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี”

น.ส.ณิชา กล่าวอีกว่า ในส่วนของคดีความ ไม่ติดใจการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก เนื่องจากได้รับการชี้แจงขั้นตอนการทำงานจากผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งก็เข้าใจกระบวนการสอบสวนที่มีการดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

“เหตุที่เกิดขึ้นจนทำให้ตนเองถูกคุมขัง หากมองก้าวผ่านก็ทำให้ทุกฝ่ายหันมาให้ความช่วยเหลือ เร่งสอบสวนสืบสวนจนสามารถจับกุมคนร้ายที่ทำกันเป็นขบวนการได้ยกแก๊ง ส่วนการขอใช้สิทธิเยียวยาก็จะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งขั้นตอนต่างๆ ของการช่วยเหลือก็เป็นไปตามกฎหมาย”

นายจิระศักดิ์ สุดสังข์ ทนายความ บอกว่า ทางด้านคดี น.ส.ณิชา ลูกความเป็นผู้บริสุทธิ์ ในชั้นสอบสวนสามารถพิสูจน์หลักฐานต่างๆ จนได้ความชัดเจนทุกขั้นตอน ที่พนักงานสอบสวนได้นำเสนอต่อศาลเพื่อพิจารณาคำร้องยกเลิกผัดฟ้องและฝากขัง พร้อมขอคืนเงินประกันตัว จำนวน 80,000 บาท เสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว แต่การจะฟ้องธนาคารหรือไม่นั้น อยู่ที่ น.ส.ณิชา และครอบครัว จะตัดสินใจอย่างไรอีกครั้ง

ขณะที่ พ.ต.อ.มนัส ศรประพันธ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตาก เปิดเผยว่า กรณีที่มีข้อสงสัยว่าพนักงานสอบสวนไม่แนบเอกสารหลักฐานที่ น.ส.ณิชา ได้ส่งมอบให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก เพื่อให้ศาลพิจารณานั้น ทางตำรวจภูธรจังหวัดตากได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบแล้ว พบว่าพนักงานสอบสวนได้ทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง

กล่าวคือ มีการบรรยายถึงมูลเหตุของคดีที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ ต่อมาได้มีการควบคุมผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวโทษได้แล้ว โดยได้บรรยายกระบวนการการติดตามผู้ต้องหา มีการออกหมายเรียก 2 ครั้ง แต่ไม่ได้มาพบพนักงานสอบสวน จึงออกหมายจับ และพนักงานสอบสวนได้ไปรับตัวผู้ต้องหาที่กองปราบปราม ซึ่งในส่วนนี้เป็นเอกสารแนบท้ายบันทึกฝากขังที่เสนอต่อศาล ส่วนขั้นตอนสุดท้าย คือ การบรรยายเหตุผลและความจำเป็นที่จะต้องทำการควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อทำการสอบสวนประเด็นต่างๆ

“ทั้งหมดอยู่ในกรอบ ขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ทำอย่างถูกต้อง ไม่ผิดพลาด”

ส่วนการดำเนินการสรุปสำนวนสั่งไม่ฟ้อง น.ส.ณิชา ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้เร่งสรุปสำนวนเอกสารต่างๆ ส่งให้พนักงานอัยการ พิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ ภายใน 15 วัน หรืออาจน้อยกว่านั้น เพราะหลักฐานทุกอย่างกระจ่างแล้ว