ส.ป.ก.กาญจน์ เข้าตรวจแนวเขตวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ คาดรู้ผลสินเดือนรุกไม่รุกเขตห้ามล่า

กาญจนบุรี - ส.ป.ก.กาญจน์ ลงพื้นที่ตรวจแนวเขตวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ พร้อมสรุปอีกครั้งวันที่ 31 ม.ค.หากพบอาคารก่อสร้างอยู่นอกเขตอนุญาตให้ใช้เป็นเขตพระพุทธศาสนาโดนรุกเขตห้ามล่าทันที ส่วนไม้มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ถอนอายัดเกือบหมดแล้ว

จากกรณี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดพญาเสือ (กรมอุทยานฯ) นำกำลังเจ้าหน้าที่หลายฝ่ายเข้าตรวจสอบไม้ท่อน และไม้แปรรูปภายในวัดเมตตาธรรมโพธญาณ หมู่ 7 ต.หนองหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ที่มีมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท มีพระภิกษุเย็นหมง เป็นเจ้าอาวาส สำหรับที่ดินของวัดมี จำนวน 242 ไร่ ซึ่ง ส.ป.ก.อนุญาตให้สำนักงานพระพุทธศาสนาใช้เพื่อกิจการในพระพุทธศาสนา โดย ส.ป.ก.ได้ออกหนังสืออนุญาต ส.ป.ก.4-31 เมื่อปี พ.ศ.2541 ตามที่ได้เสนอข่าวไปตั้งแต่วันที่ 7 ธ.ค.60 แล้วนั้น

ล่าสุด วันนี้ (16 ม.ค.) นายธเนตร พารา ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมายสำนักงานปฏิรูปที่ดิน(ส.ป.ก.)กาญจนบุรี พร้อมด้วย นางรจณพรรณ ณรงค์อินทร์ นิติกรชำนาญการ (ส.ป.ก.) กาญจนบุรี นายอนุรักษ์ เด่นดวง นายช่างสำรวจชำนาญงาน (ส.ป.ก.) กาญจนบุรี และทีมงานช่างสำรวจฯ เดินทางไปที่วัดเมตตาธรรมโพธิญาณ เพื่อเริ่มตรวจสอบขอบเขตพื้นที่ของวัดที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด โดยมี นายธรรมรัฐ วงศ์โสภา ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าร่วม โดยพระภิกษุเย็นหมง เจ้าอาวาส ได้นำพาสำรวจ

ทั้งนี้ นายธเนตร พารา ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมาย ส.ป.ก.กาญจนบุรี กล่าวว่า เมื่อปี 2541 ส.ป.ก.ได้ออกหนังสืออนุญาต ส.ป.ก.4-31 จำนวน 242 ไร่ ให้สำนักงานพระพุทธศาสนาใช้เพื่อกิจการในพระพุทธศาสนา ให้สร้างวัดเมตตาธรรมโพธิญาณ หลังจากที่เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า หรือหน่วยพญาเสือ นำกำลังเข้ามาตรวจสอบไม้ที่มีอยู่ภายในวัดทั้งหมด ตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้

โดยเจ้าหน้าที่ได้ประสานขอให้ ส.ป.ก.กาญจนบุรี เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ที่ ส.ป.ก.อนุญาตให้ใช้ ดังนั้น วันนี้จึงนำเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ของวัดตามคำร้องขอด้วยการเดินสำรวจแนวเขตโดยรอบทั้งหมด คาดว่าคงต้องใช้เวลาในการเดินสำรวจประมาณ 1 อาทิตย์ จึงจะสามารถหาหมุดของ ส.ป.ก.ที่ปักเอาไว้ในแต่ละจุดครบทั้งหมด และหลังจากนั้น คณะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมาสำรวจแนวเขตพร้อมกันอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 31 ม.ค.นี้

ซึ่งในวันดังกล่าวนั้นเองก็คงจะสามารถทราบได้ว่า อาคาร หรือโกดังต่างๆ ที่มีอยู่ภายในวัด ะมีการสร้างออกนอกเขตที่ทางวัดได้รับอนุญาตหรือไม่ ซึ่งหากพบว่ามีการสร้างอาคารออกนอกเขตพื้นที่ ส.ป.ก.ก็จะเป็นความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นผู้ดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า หรือหน่วยพญาเสือ นำโดย นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าหน่วยพญาเสือ (กรมอุทยานฯ) ได้พิจาณาถอนอายัดไม้ที่มีอยู่เกือบทั้งหมดแล้ว และยังคงเหลือไม้เพียงแค่จำนวน 354 ท่อน/แปรรูปเท่านั้น ที่รอการตรวจสอบเอกสารจากทางวัด ที่ขอเลื่อนเวลาในการค้นหาเอกสารออกไปเป็นเวลา 15 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 8-23 ม.ค.61