นครพนม - นรข.สกัดยึดรถกระบะสี่ประตู 2 คันคาแพกลางน้ำโขงเตรียมส่งข้ามโขงขายฝั่งลาว คาดเป็นรถยนต์มาจากการโจรกรรม และจำนำในบ่อนพนัน เผยตลาดมืดฝั่งลาวนิยมกระบะโตโยต้า ลอบส่งไปขายแค่คันละ 2-3 แสนบาทตามสภาพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ม.ค.) ที่หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข) นครพนม พล.ร.ต.พิสิษฐ์ ทองดีเลิศ ผู้บัญชาการ นรข.นครพนม สั่งการให้ น.อ.กษิดิ กลิ่นศรีสุข ผบ.นรข.เขตนครพนม พร้อมด้วย ว่าที่ ร.ต.ภูมิศักดิ์ ขำปู่ นายอำเภอท่าอุเทน พ.ต.อ.ธานัท จิราธนะกุล ผกก.สภ.ท่าอุเทน น.ท.อดิศักดิ์ ภานุโรจนากร หน.สน.เรือนครพนม ร่วมกับตำรวจน้ำ ตชด.236 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงข่าวผลตรวจยึดรถยนต์กระบะโจรกรรมข้ามชาติ จำนวน 2 คัน
ประกอบด้วย รถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 8557 นครศรีธรรมราช และโตโยต้า วีโก้ 4 ประตู สีขาว ทะเบียน กร 7764 ภูเก็ต พร้อมเรือแพดัดแปลงติดเครื่องยนต์ 2 ลำ โดยตรวจยึดได้เมื่อเวลา 20.00 น.ของคืนที่ผ่านมาบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านท่าจำปา อ.ท่าอุเทน ภายหลังเจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนส่งรถยนต์โจรกรรมข้ามชาติส่งไปขายฝั่ง สปป.ลาว จึงระดมกำลังวางแผนเข้าจับกุม
จนกระทั่งพบกลุ่มชายต้องสงสัยประมาณ 7-10 คนกำลังช่วยกันลำเลียงรถยนต์ดังกล่าวลงเรือหางยาวที่ดัดแปลงต่อเป็นแพ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้นจับกุม ทำให้กลุ่มผู้กระทำผิดทิ้งรถยนต์หนี และอาศัยความมืดหายไป จึงได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ของกลางมาตรวจสอบที่สถานีเรือนครพนม
เบื้องต้นจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่เชื่อว่ารถยนต์ดังกล่าวน่าจะเป็นรถยนต์ของขบวนการโจรกรรมรถยนต์ข้ามชาติที่เตรียมส่งไปขายฝั่ง สปป.ลาว ซึ่งเคยจับกุมมาแล้วหลายครั้ง โดยจะใช้วิธีการลำเลียงลงเรือหางยาวส่งต่อไปขายในราคาคันละประมาณ 2 -3 แสนบาท ตามสภาพ ส่วนใหญ่จะเป็นรถยนต์กระบะประเภทยกสูง ยี่ห้อโตโยต้าเป็นหลัก เพราะเป็นที่นิยมในตลาดโจรกรรมรถยนต์
จากการตรวจสอบเอกสารพบชื่อผู้ครอบครอง เอกสารสัญญาซื้อขาย และหนังสือมอบอำนาจ ซึ่งจะได้เร่งตรวจสอบขยายผล สอบสวนหาที่มา รวมถึงสอบสวนเจ้าของรถว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับที่มาของรถยนต์ส่วนใหญ่จะมีที่มาทั้งรถยนต์ที่ได้จากการโจรกรรม
รวมถึงรถยนต์ที่ดาวน์มาในราคาต่ำแล้วส่งต่อไปขาย และยังมีรถยนต์ส่วนใหญ่ที่นำส่งออกไปขาย คือรถยนต์ที่นำมาจากการจำนำบ่อนการพนัน
ทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนขยายผล ติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดี พร้อมเพิ่มมาตรการเข้มในการสกัดกั้นปราบปรามจับกุมตามพื้นที่แนวชายแดน
