ศรีสะเกษ - กล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์ระทึก วินาทีจักรยานยนต์ชนกัน ก่อนแท็กซี่-ปิกอัพพุ่งชนซ้ำเหยียบร่างดับสยองคาที่ 1 ศพ บาดเจ็บ 2 ราย เหยื่อรอดชีวิตเผยวินาทีโดนปิกอัพเหยียบซ้ำ พยายามยกมือโบกให้รู้ว่ามีคนบาดเจ็บแต่โดนชนซ้ำลากร่างเพื่อนที่เสียชีวิตไปไกลกว่า 5 เมตร
เปิดภาพกล้องวงจรปิดบันทึกเหตุการณ์วินาทีที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์สองคันชนกันที่บริเวณสี่แยก ธ.ก.ส. อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ โดยมีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งมีชายสวมเสื้อสีเขียวเป็นคนขับขี่ได้ขี่รถออกมาจากถนนคูเมือง 3 เพื่อจะเลี้ยวข้ามไปยังถนนคูเมือง 1 ที่อยู่ตรงข้ามกันและรถจักรยานยนต์ได้จอดอยู่กลางถนน ทันใดนั้นได้มีรถจักรยานยนต์คันหนึ่งมีชาย 2 คนซ้อนกันมาพุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่รอเลี้ยวอย่างจัง ทำให้รถ จักรยานยนต์พุ่งเข้าไปในเลนขวามือและมีรถแท็กซี่วิ่งสวนมา จึงได้ชนรถจักรยานยนต์ที่กำลังไถลไปตามถนนอย่างจังทำให้รถจักรยานยนต์ถูกชนกระเด็นกลับมาทางชายคนที่สวมเสื้อสีเขียวที่ถูกชนนอนอยู่กลางถนน รถจักรยานยนต์ที่ถูกแท็กซี่ชนได้กระเด็นไปชนรถจักรยานยนต์ที่ล้มคว่ำอยู่
ขณะที่ชายวัยรุ่นที่นั่งซ้อนรถจักรยานยนต์มาด้วยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยได้เข้าไปดูอาการของคนขี่รถจักรยานยนต์ที่ถูกรถแท็กซี่ชน โดยได้ทำการปั๊มหัวใจ แต่ปรากฏว่าได้มีรถยนต์ปิกอัพสีแดงคันหนึ่งขับมาตรงที่คนเจ็บนอนอยู่และกำลังมีการปั๊มหัวใจ ชายวัยรุ่นพยายามยกมือโบกเตือนให้ทราบว่ามีคนเจ็บนอนอยู่ แต่รถปิกอัพได้พุ่งเหยียบซ้ำและลากคนเจ็บไปไกลประมาณ 5 เมตร ชายวัยรุ่นกระโดดหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด โดยคนขับรถปิกอัพได้ลงจากรถมาดูเมื่อพบว่ามีศพติดอยู่ใต้รถก็ขับรถถอยหลังเพื่อให้ศพหลุดออกจากใต้ท้องรถ จากนั้นได้ขับรถหลบหนีไปทันที
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.45 น. วันที่ 11 ม.ค. 61 มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย คือ นายอนุชิต หรือแบงค์ บาลิศรี อายุ 25 ปี เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ อยู่หมู่ 3 ต.ศรีสุข อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ซึ่งมาทำงานที่ร้านร้อยแก้วหมูกระทะ มี นายพันธวัช หรือคิม นามโคตร อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.5 บ้านสาวแล ต.โพธิ์ตาก อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วย ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และชายสวมเสื้อสีเขียวที่ต่อมาฟื้นขึ้นมาแล้วแต่จำความไม่ได้เนื่องจากศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ต่อมา ร.ต.อ.บุญลักษณ์ เหลี่ยมแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.ขุขันธ์ ได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ และได้นำผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่งไปยังโรงพยาบาลขุขันธ์ และจากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของร้านเอกอ้อดาวเทียม ที่อยู่ใกล้บริเวณที่เกิดเหตุทำให้พบภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งได้มีการนำเอาภาพจากกล้องวงจรปิดมาประกอบในการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงในการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยมีการเผยแพร่ภาพเหตุการณ์นี้ในเฟซบุ๊ก คนขุขันธ์ มีผู้สนใจเข้าไปชมภาพเหตุการณ์จำนวนมาก
ทางด้าน นายพันธวัช หรือคิม นามโคตร อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 ม.5 บ้านสาวแล ต.โพธิ์ตาก อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย ที่นั่งซ้อยท้ายรถจักรยานยนต์มาด้วยและรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด กล่าวด้วยอาการที่ยังไม่หายตื่นเต้นว่า ขณะเกิดเหตุหลังจากเลิกงานที่ร้านร้อยแก้วเนื้อย่างเกาหลีแล้วตนได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของนายแบงค์เพื่อที่จะพากันเข้าไปหาข้าวกินในตลาดโต้รุ่ง และเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้มีรถจักรยานยนต์ขี่ออกจากข้างทางและจอดรอเลี้ยวอยู่กลางถนนอย่างกะทันหัน ทำให้รถของนายแบงค์ที่ตนนั่งซ้อนท้ายมาด้วยหลบไม่พ้นทำให้เกิดการชนกันอย่างจัง และนายแบงค์กับรถได้ถูกรถแท็กซี่ที่วิ่งสวนทางมาชนอย่างจัง นอนฟุบกลางถนน ตนได้เข้าไปช่วยปั๊มหัวใจ
แต่ปรากฏว่าได้มีรถปิกอัพสีแดงขับมาเหยียบนายแบงค์ซ้ำอีกและลากร่างนายแบงค์ไปตามถนน จากนั้นคนขับรถปิกอัพได้ลงมาดูร่างนายแบงค์ที่ติดอยู่ใต้ท้องรถแล้วขึ้นรถขับถอยหลังเพื่อให้ร่างนายแบงค์หลุดออก จากนั้นขับรถหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ตนได้รีบยืมรถจักรยานยนต์ของคนที่เห็นเหตุการณ์มาบอกน้าชายที่เป็นเจ้าของร้านร้อยแก้วเนื้อย่างเกาหลีที่อยู่ไม่ไกลที่เกิดเหตุให้ไปช่วยเหลือ
ทางด้าน นายวีรพงษ์ คำใบ อายุ 40 ปี เจ้าของร้านร้อยแก้วเนื้อย่างเกาหลี กล่าวว่า ขณะนี้ตนและญาติพี่น้องได้ส่งศพของนายอนุชิต หรือแบงค์ บาลิศรี กลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด อ.โพธิ์ตาก จ.หนองคาย แล้ว โดยตนได้จ่ายเงินค่าใช้จ่ายส่งศพจำนวน 10,000 บาท และเงินช่วยทำศพเบื้องต้น จำนวน 10,000 บาทช่วยเหลือญาติของนายแบงค์ เนื่องจากว่านายแบงค์เป็นลูกหลานของตนที่มาทำงานด้วยกว่า 4 ปีแล้ว ตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความเป็นธรรมกับนายแบงค์ที่เสียชีวิตในครั้งนี้ด้วย
