แพร่ - รองแม่ทัพภาคที่ 3 นั่ง ฮ.เข้าพื้นที่จับเข่าคุยคนสะเอียบ-ตัวแทนส่วนราชการ หารือแผนชลประทานแก้ภัยแล้งเมืองแพร่-สะเอียบโมเดล หลังหลายโครงการยังติดขัดข้อกฎหมาย
วันนี้ (11 ม.ค.) พล.ต.สุภโชค ธวัชพีระชัย รองแม่ทัพภาคที่ 3 รับผิดชอบเรื่องการบริหารจัดการน้ำในภาคเหนือ สำนักงานประสานงานบริหารจัดการน้ำและฟื้นฟูป่าต้นน้ำในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์มาที่สำนักงาน อบต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่
เพื่อร่วมประชุมหารือถึงโครงการชลประทานแก้ปัญหาภัยแล้งทั้งระบบในจังหวัดแพร่ และโครงการสะเอียบโมเดล ที่ยังคงติดปัญหาไม่สามารถสร้างได้กับชลประทานจังหวัดแพร่, นายไพศาล สถิตย์วิบูลณ์ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช, นายวัฒนา ผาทอง รองนายก อบจ.แพร่, ผอ.ศูนย์นำจังหวัดแพร่, นายแต๋ง อินทา นายก อบต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ ในภาพรวมนั้นจังหวัดแพร่มีการพัฒนาโครงการชลประทานจำนวน 41 โครงการ สามารถเก็บกักน้ำได้ 153.43 ล้านลูกบาศก์เมตร ต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างจำนวน 4,000 ล้านบาทเศษ
เช่น แผนสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่อยู่ระหว่างการของบประมาณจำนวน 23 ล้านบาทเศษ คือ อ่างเก็บน้ำห้วยแม่แคม ต.สวนเขื่อน อ.เมืองแพร่ เก็บน้ำได้ 8.55 ล้านลูกบาศก์เมตร พื้นที่ชลประทานที่จะได้รับน้ำ 7,500 ไร่ นอกจากนี้ ตามแผนระยะกลางมีอีก 3 โครงการ คือ อ่างเก็บน้ำแม่คำมี อ.ร้องกวาง, อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ก๋อน อ.เมืองแพร่ และอ่างเก็บน้ำห้วยแม่พวก อ.เด่นชัย รวมทั้งมีโครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมสร้างฝายทดน้ำในแม่น้ำยม บริเวณบ้านแม่ปาน อ.เด่นชัย และบ้านหาดรั่ว อ.วังชิ้น
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาแม่น้ำยมมีโครงการขนาดใหญ่ คือ ฝายแม่ยม พื้นที่ อ.สอง รองรับพื้นที่ชลประทานได้ถึง 200,000 ไร่ แต่ในฤดูแล้งใช้ได้เพียง 10% คือ 20,000 ไร่เท่านั้น จึงมีการสร้างอ่างเก็บน้ำทางตอนเหนือที่ลำน้ำปี้ จ.พะเยา และอ่างเก็บน้ำแม่ตีบ จ.ลำปาง เพื่อเติมน้ำ และออกแบบเพิ่มประสิทธิภาพฝายแม่ยมให้มีระดับกักเก็บน้ำได้ดีขึ้น ซึ่งถ้าเป็นไปตามแผนจะเพิ่มการใช้น้ำในฤดูแล้งจาก 20,000 ไร่ เป็น 85,000 ไร่
ส่วนการแก้ปัญหาที่บริเวณต้นน้ำตามโครงการสะเอียบโมเดล มีการเสนอสร้างอ่างขนาดเล็ก 27 จุด ฝาย 6 จุด และแก้มลิงใน ต.สะเอียบ โดยชาวสะเอียบได้เสนอโครงการเร่งด่วน คือ อ่างห้วยแม่เป้า อ้างห้วยโป่ง อ่างห้วยแม่สะกึ๋น 2 และอ่างห้วยแม่เต้นตอนบน ซึ่งได้นำเสนอต่อ ครม.สัญจรไปแล้ว
พล.ต.สุภโชคกล่าวว่า ตนเดินทางมาตรวจโครงการเกี่ยวกับน้ำในจังหวัดแพร่ เพราะในอีก 2 เดือนข้างหน้าพื้นที่เหล่านี้จะประสบกับภัยแล้ง ต้องมีการบริหารจัดการน้ำแบบเร่งด่วน ระยะกลาง และโครงการระยะยาว ซึ่งเท่าที่ดูพบว่าส่วนใหญ่แล้วติดปัญหาข้อกฎหมาย เช่น กฎหมายป่าไม้ พื้นที่อนุรักษ์ และอุทยานแห่งชาติ กฎหมายกรมเจ้าท่า ซึ่งต้องร่วมกันแก้ไข ดูว่าต้องขออนุญาตก่อน-หลังอย่างไร
สำนักงานประสานงานบริหารจัดการน้ำและฟื้นฟูป่าต้นน้ำในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 จะเป็นเหมือนตัวเชื่อมให้มีการแก้ไข หรือขออนุญาตให้สะดวกขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีโครงการ และมีงบประมาณดำเนินการแล้วกองทัพฯ จะประสานให้เพื่อให้สำเร็จตามเป้าหมาย ทั้งเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว ซึ่งที่มาดูก็พบข้อจำกัดมากมาย ก็ต้องประชุมหารือและหาทางออกร่วมกันต่อไป
หลังจากนั้นรองแม่ทัพภาคที่ 3 ได้เดินทางเข้าไปยังจุดสร้างอ่างเก็บน้ำเร่งด่วนของชาวสะเอียบ เพื่อหารือทุกหน่วยงานได้ประสานกันอย่างจริงจังต่อไป