ศูนย์ข่าวศรีราชา - กองทัพเรือ เคลื่อนย้ายซากเรือประมง “โชคชูชัย” ที่ถูกเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ไม่ทราบชนิดชนอับปางกลางทะเลสัตหีบขึ้นสู่ฝั่งแล้ว ขณะที่เจ้าของเรือเตรียมนำเรือกลับไปซ่อมแซมเพื่อให้กลับมาทำมาหากินได้อีก ขอบคุณกองทัพเรือที่ให้ความช่วยเหลือตั้งแต่ต้น พร้อมจี้ ตร.เร่งหาเรือสินค้าที่พุ่งชน มารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (9 ม.ค.) กรมอู่ทหารเรือ ได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายซากเรือประมง “โชคชูชัย” ที่ถูกเรือบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ไม่ทราบชนิดชนอับปางกลางทะเล บริเวณละติจูด 12 องศา 3.28 ลิปดาเหนือ ลองจิจูด 101 องศา 12.10 ลิปดาตะวันออก ห่างชายฝั่ง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ประมาณ 38 ไมล์ เมื่อเช้ามืดวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา จนทำให้มีลูกเรือเสียชีวิต 4 ราย รอดชีวิต 4 ราย
การเคลื่อนย้ายดังกล่าว กองทัพเรือโดยอู่ราชนาวีมหิดลฯ เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติงาน และมี พล.ร.ต.ปรัชญา กุมุท ผู้อำนวยการอู่ราชนาวีมหิดลฯ ติดตามการใช้เครนขนาด 50 ตัน จำนวน 2 คัน ยกซากตัวเรือขึ้นจากทะเลสู่ฝั่ง ใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง จึงแล้วเสร็จ
เบื้องต้น พ.ต.อ.กิตติภูมิ สืบพันธ์แท้ นักวิทยาศาสตร์ (สบ 4) พิสูจน์หลักฐาน จ.ระยอง พร้อมคณะทำงานได้ลงพื้นที่ตรวจพิสูจน์ทราบ และหาหลักฐานสาเหตุการจมของเรือ พบว่า ตัวเรือถูกชนอย่างแรงบริเวณกราบขวา ก่อนจะพลิกคว่ำจมทะเลในทันที
ส่วนลูกเรือที่เสียชีวิตสันนิษฐานว่า น่าจะนอนหลับอยู่ในตัวเรือจนไม่สามารถหนีเอาชีวิตรอดได้ทัน เป็นเหตุให้จมน้ำเสียชีวิตติดคาอยู่ในตัวเรือ
ด้าน นางเยาวลักษณ์ อิ่มประไพ 58 ปี เจ้าของเรือเผยว่า ภายหลังการเคลื่อนย้ายซากเรือเสร็จ จะนำเรือกลับไปดำเนินการซ่อมแซมเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ พร้อมทั้งยังขอขอบคุณไปยังกองทัพเรือ โดยเฉพาะทัพเรือภาคที่ 1 ที่ภายหลังเกิดเหตุได้ส่งเรือรบออกช่วยเหลือผู้รอดชีวิต และงมร่างผู้เสียชีวิตขึ้นจากทะเลในทันที และยังให้ความช่วยเหลือในการเคลื่อนย้าย และลากตัวเรือเข้าฝั่งให้เป็นไปโดยสะดวก
“ทางครอบครัวขอแสดงความขอบคุณอย่างสุดซึ้ง และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามหาเรือสินค้าที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของครอบครัวให้ได้โดยเร็ว” นางเยาวลักษณ์ กล่าว