หนองคาย - วัยรุ่นหนองคายต่างหมู่บ้านไปเที่ยวงานวัด เจออริเก่าเขม่นกันไม่เลิก ก่อนยกพวกรุมทำวิวาทหน้าเวทีหมอลำ อีกฝ่ายวิ่งกลับไปหยิบปืนใต้เบาะจักรยานยนต์มายิงคู่อริดับ 1 เจ็บ 1 ทิ้งปืนลงสระน้ำข้างบ้านก่อนแยกย้ายหลบหนี แต่ไม่รอดถูกตำรวจตามรวบได้ยกแก๊ง
เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น. วันนี้ (9 ม.ค.) พ.ต.ท.ก้องภพ สีหาชัย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้รับแจ้งเหตุวัยรุ่นก่อเหตุทะเลาะวิวาทใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บภายในวัดเกาะแก้วขวัญเมือง บ้านผำไผ ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ โดยพบว่าผู้บาดเจ็บมี 2 คน คือ นายเทิด พรมดี อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30 หมู่ 7 ต.บ้านว่าน อ.ท่าบ่อ และนายเอ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 3 ต.หายโศก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ทั้งสองคนถูกยิงด้วยอาวุธปืนและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ แต่นายเทิดเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา โดยกระสุนปืนยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านซ้าย 1 นัด ส่วนนายเอถูกยิงเข้าลำตัวได้รับบาดเจ็บและรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชท่าบ่อ
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รองผบก.ภ.จ.หนองคาย, พ.ต.อ.จักรทิพย์ กูลพฤกษี ผกก.สภ.ท่าบ่อ สั่งการให้ พ.ต.ท.ปริวัฒน์ สัจจาพันธ์ รอง ผกก.(สส.), พ.ต.ท.สุริยา บุญสิทธิ์ สว.สส.ภ.จว.หนองคาย นำเจ้าหน้าที่ออกจับกุมผู้ก่อเหตุ
ต่อมาเวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุม นายอีฟ (นามสมมติ) อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 54 หมู่ 1 ต.โคกคอน อ.ท่าบ่อ ได้ที่บ้านพัก จับกุม นายเบส สีทน อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 หมู่ 2 ต.โคกคอน อ.ท่าบ่อ ได้ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน และจับกุมนายพงศธร สังวงค์ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49 หมู่ 4 ต.โคกคอน อ.ท่าบอ ได้ที่บ้านพัก ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นอาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ 2 กระบอก หลังก่อเหตุนายพงศธรได้โยนทิ้งในสระน้ำข้างบ้านซึ่งเจ้าหน้าที่ได้งมของกลางขึ้นมาได้
จากนั้นเวลาประมาณ 09.30 น.วันเดียวกันนี้ พ.ต.อ.อรรคพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้คุมตัวทั้งสามคนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในวัด โดยมีนางสะอาด พรมดี อายุ 43 ปี แม่ของนายเทิด ผู้ตายมาดูเหตุการณ์ ทั้งร้องไห้เสียใจ ท่ามกลางความสนใจของชาวบ้านมามุงดูและก่นด่าผู้ต้องหาทั้งหมด
ต่อมาเวลาประมาณ 10.00 น. พ.ต.อ.อรรถพงศ์ พิมลศิริ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย ได้นำผู้ต้องหากลับมาที่ สภ.ท่าบ่อ และแถลงข่าว
นายเบส สีทน หนึ่งในผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เมื่อ 3 วันก่อน กลุ่มพวกตนไปเที่ยวงานวัดที่หมู่บ้านหนึ่งและไปเจอเข้ากับกลุ่มของผู้ตายจนเกิดเขม่นกันขึ้น กลุ่มของผู้ตายได้ใช้มีดทำร้ายเพื่อนของตนได้รับบาดเจ็บ พอมาเมื่อคืนนี้พวกตนประมาณ 10 คนไปเที่ยวงานบุญที่วัดในหมู่บ้านของผู้ตายก็ไปเจอกับกลุ่มผู้ตายอีก แต่คราวนี้กลุ่มผู้ตายมีมากกว่า ประมาณ 01.00 น.พวกตนได้เขม่นกันอีกรอบหน้าเวทีหมอลำ แต่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาจับแยกก่อน
หลังจากนั้นก็กลับมาเต้นรำหน้าเวทีหมอลำอีก คราวนี้กลุ่มของผู้ตายได้เข้ามาชกต่อย ตนจึงใช้ปืนที่พกไปด้วยยิงเข้าใส่นายเทิด 1 นัด ขณะที่นายอีฟบอกว่าหลังถูกพวกผู้ตายชกต่อย ตนรีบวิ่งกลับมาที่จักรยานยนต์เปิดใต้เบาะรถหยิบเอาปืนที่ซ่อนไว้ใต้เบาะ เป็นจังหวะที่นายเอวิ่งเข้ามาจะชกตนอีก ตนจึงเล็งปืนยิงใส่นายเอ กระสุนถูกลำตัวของนายเอล้มลง จากนั้นพวกตนได้ไปหานายพงศธรที่บ้าน เอาปืนให้นายพงศธรเก็บไว้ แล้วแยกย้ายกันกลับบ้านจนมาถูกตำรวจตามจับได้
ทั้งนี้ นายเบสเพิ่งจะพ้นโทษจากเรือนจำจังหวัดหนองคายในข้อหาบุกรุกเคหสถาน เมื่อเดือน พ.ย. 60 ที่ผ่านมา และก่อเหตุในครั้งนี้ขึ้นอีก เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหานายเบสว่าฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร, พยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพกพาอาวุธปืนฯ ส่วนนายพงศธรถูกแจ้งข้อหา มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและพกพาอาวุธปืนฯ แล้วคุมตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป