ศูนย์ข่าวขอนแก่น - ขนส่งจังหวัดขอนแก่นร่วมสารวัตรทหาร มทบ.23 วางแผนจับแท๊กซี่ป้ายดำ หรืออูเบอร์ เผยได้รับร้องเรียนมีคนลอบนำรถยนต์ส่วนตัวออกมาวิ่งรับส่งผู้โดยสารจำนวนไม่น้อย ขู่หากถูกจับซ้ำครั้งที่ 2 ยึดใบอนุญาต ไม่เข็ดเจอครั้งที่ 3 ถอนใบอนุญาตขับขี่ทันที
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ม.ค.) นายกฤษฎา มะลิซ้อน หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการขนส่ง นำกำลังเจ้าหน้าที่ ขนส่งจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วยกำลังสารวัตรทหาร มณฑลทหารบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ ทำการล่อซื้อหรือล่อใช้บริการรถแท็กซี่ป้ายดำ หรืออูเบอร์ ที่ลักลอบนำออกมาวิ่งให้บริการประชาชนผ่านแอปพลิเคชันอูเบอร์ และแท็กซี่
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ขนส่งจังหวัดได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการรถแท็กซี่ขอนแก่น และประชาชนว่ามีการลักลอบนำรถยนต์ส่วนบุคคลออกมาให้บริการรับส่งโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้แท็กซี่ที่ขออนุญาตถูกต้องตามกฎหมายได้รับผลกระทบถูกแย่งลูกค้าผู้ใช้บริการ
ขนส่งจังหวัดขอนแก่นจึงขอความร่วมมือกับสารวัตรทหารค่ายศรีพัชรินทร์ วางแผนให้เจ้าหน้าหน้าที่ปลอมตัวเป็นผู้โดยสาร ติดต่อเรียกใช้บริการ และแจ้งให้ไปส่งที่บริเวณหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาขอนแก่น เบื้องต้นพบว่าเป็นรถที่นำมาใช้ผิดกฎหมายจริง เจ้าหน้าที่ขนส่งจังหวัดขอนแก่นจึงได้ทำการจับกุม
โดยเฉพาะวันนี้ (8 ม.ค.)พบผู้กระทำผิดจำนวน 2 ราย ก่อนที่จะเปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุด เป็นเงินจำนวนรายละ 2,000 บาท
นายกฤษฎา มะลิซ้อน หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการขนส่ง สำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้มีการร้องเรียนเกี่ยวการนำรถยนต์ส่วนตัว หรือรถป้ายดำ มาวิ่งรับส่งผู้โดยสารในจังหวัด ขอนแก่นจำนวนมาก ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรถแท็กซี่ จึงได้วางแผนสุ่มใช้บริการรถแท็กซี่ป้ายดำ พบว่ามีการให้บริการจริง เข้าข่ายความผิดมาตรา 21 ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถไม่ตรวจตามประเภทที่จดทะเบียนไว้ จึงได้ทำการเปรียบเทียบปรับขั้นสูงสุดเป็นเงินจำนวน 2,000 บาท และผู้กระทำผิดจะถูกบันทึกข้อมูล หากพบการกระทำผิดอีกจะยึดใบขับขี่เป็นเวลา 30 วัน และทำผิดครั้งที่ 3 จะเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
นายกฤษฎาระบุว่า ขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชนอย่าใช้บริการกับรถที่ ไม่ได้มีการจดทะเบียนให้บริการของสำนักงานขนส่งจังหวัดขอนแก่น เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอันตราย เพราะรถป้ายดำไม่มีการขึ้นเทียนรถยนต์และคนขับ ซึ่งอีกไม่นาน กรมการขนส่งทางบกเตรียมเปิดให้บริการแท็กซี่โอเค ผ่านการให้บริการแอปพลิเคชัน จะมีการเปิดตัวในวันที่ 25 มกราคม 2561 นี้