ลำปาง - หวิดสลดเพราะฤทธิ์เหล้าจริงๆ หนุ่มเมาแล้วเพี้ยนใช้โทรศัพท์เคาะเสียงดัง เพื่อนเตือนกลับโมโหคว้าปืนแก๊ปที่เตรียมใช้ส่องสัตว์ขู่เพื่อนจนวงแตก ปืนลั่นไม่พอ ชักมีดฟันหน้าผากเพื่อนเป็นแผลเหวอะ อีกคนเข้าห้ามโดนแทงขาเจ็บด้วย
ร.ต.อ.โยธิน เทศศรีเมือง รอง สว.(สอบสวน) สภ.แม่ทะ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุคนถูกทำร้ายร่างกายที่บ้านเลขที่ 24 หมู่ 3 ต.บ้านกิ่ว อ.แม่ทะ เมื่อคืนที่ผ่านมา (7 ม.ค.) มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยสายตรวจตำบล
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวยกสูง พบชาวบ้านจำนวนหนึ่ง และผู้ใหญ่บ้านมารอในที่เกิดเหตุแล้ว ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบหยดเลือดที่บริเวณบันไดบ้าน และถนนคอนกรีตในหมู่บ้าน
มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ นายนิวัฒน์ สายสุภา อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/4 หมู่ที่ 3 ต.บ้านกิ่ว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง ถูกมีดปลายแหลมขนาดเกือบ 1 ฟุตฟันเข้าที่บริเวณหน้าผากเป็นแผลขนาดใหญ่ และนายประเสริฐ คำพิโล อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ที่ 3 ต.บ้านกิ่ว อ.แม่ทะ ถูกมีดชนิดเดียวกันแทงเข้าที่บริเวณต้นขาขวา 1 แผล ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้งสองรายพลเมืองดีนำตัวส่งโรงพยาบาลแม่ทะไปก่อนหน้านี้แล้ว
จากการสอบสวน นายสมบูรณ์ คำพิโล อายุ 44 ปี เจ้าของบ้านดังกล่าวทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุคือ นายอัสราพงศ์ วงค์จันทร์ อายุ 32 ปี ชาว อ.แม่ทะ จ.ลำปาง โดยก่อนเกิดเหตุทั้ง 3 คนได้มานั่งดื่มสุราที่บ้านของตนจนมึนเมา ระหว่างที่นั่งดื่มกันนั้นนายนิวัฒน์ได้เอาโทรศัพท์ขึ้นมาเคาะ ตนก็ได้เตือนไม่ให้เคาะโทรศัพท์เพราะเกิดเสียงดังรำคาญ
ทำให้นายอัสราพงศ์ ผู้ก่อเหตุ เกิดความไม่พอใจเช่นกัน จึงได้ต่อว่ากันและเกิดการท้าทายกันขึ้น นายอัสราพงศ์โมโหและได้ลุกออกจากวงเหล้าลงจากบ้านไปหยิบมีด และปืนแก๊ปที่ห้อยอยู่กับรถจักรยานยนต์ที่จอดไว้หน้าบ้านเกิดเหตุเตรียมจะไปส่องสัตว์ในคืนนี้
นายอัสราพงศ์ได้นำปืนแก๊ปดังกล่าวขึ้นมาขู่นายนิวัฒน์จนทำให้วงแตก และวิ่งไล่กันไปตามถนนคอนกรีตในหมู่บ้านก่อนเกิดการยื้อแย่งปืนจนทำให้ปืนลั่นขึ้นมา 1 นัด แต่กระสุนปืนไม่ถูกใคร ระหว่างที่ทั้งคู่กำลังชุลมุนกันอยู่นั้นนายอัสราพงศ์ได้ชักมีดปลายแหลมยาวเกือบ 1 ฟุตที่พกไว้ที่เอวของตนเองออกมาฟันเข้าที่หน้าผากนายนิวัฒน์ 1 แผล นายประเสริฐเห็นเหตุการณ์ไม่ดีก็รีบเข้าไปห้าม จึงถูกนายอัสราพงศ์ใช้มีดแทงเข้าที่บริเวณต้นขาขวา 1 แผล ก่อนที่จะหลบหนีไป
ต่อมาชาวบ้านและผู้ใหญ่บ้านได้ยินเสียงเอะอะโวยวายได้เข้ามาช่วยกันห้ามและนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 รายส่งโรงพยาบาล และแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะติดตามตัวนายอัสราพงศ์มาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป