xs
xsm
sm
md
lg

แรงหยุดไม่อยู่! ไทยเทศแห่เช่าบูชากระเป๋ามงคล-เจิมหน้าผากแน่นวัดไผ่ล้อม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นครปฐม - กระเป๋ามหามงคล “พูล เพิ่ม ทรัพย์” หลวงพี่น้ำฝน วัดไผ่ล้อม หลังมีกระแสวิพากษ์ ล่าสุด วันหยุดนักธุรกิจไทยเทศเดินหน้าเช่าบูชายอดกระฉูดแน่นวัด ขณะอีกส่วนอยากเจิมหน้า หวังกำลังใจสู้เศรษฐกิจร่วง อีกส่วนตั้งใจนำเงินช่วยโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม ด้านหลวงพี่น้ำฝน ท้าสื่อบอกวันนี้ให้มาดูกับตา ศรัทธามาจากทั่วทิศ อะไรคืองมงาย อะไรคือศรัทธา ต้องแยกให้ออก

วันนี้ (6 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวได้ติดตามบรรยากาศที่วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม หลังจาก พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน ตกอยู่ในกระแสหลังจากมีการนำกระเป๋ามหามงคล พูล เพิ่ม ทรัพย์ ที่มีการนำยันต์หลวงพ่อพูล อัตตรักโข เกจิผู้ล่วงลับ ออกให้เช่าบูชา และมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ 2 ฝั่งความเห็นที่เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย จนเป็นประเด็นร้อนในสังคม และสื่อแทบทุกแขนงได้เดินทางเข้ารายงาน และสอบถามจากหลวงพี่น้ำฝน และบุคคลต่างๆ ในสังคมตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยช่วงเช้า หลวงพี่น้ำฝน ได้มีการนั่งประจำที่จุดสักการบูชาใกล้กับสังขารหลวงพ่อพูล เพื่อรอลงพิธีเจิมนะหน้าทองให้แก่ลูกศิษย์ลูกหา ซึ่งมีการเดินทางเข้ามาตั้งแต่เช้าตรู่ ซึ่งมีกระแสของการแห่เข้ามาทำบุญ และเช่าบูชากระเป๋ามหามงคลอย่างแน่นขนัด โดยมีทั้งนักธุรกิจชาวไทย นักท่องเที่ยวชาวไทย จีน ฮ่องกง มาเลเซีย เวียดนาม อเมริกัน อิตาลี และเยอรมนี ได้เดินทางเข้ามาเพื่อรอพบกับหลวงพี่น้ำฝน โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก แม้หลวงพี่น้ำฝน จะหยุดพักเพื่อฉันเพล และเดินทางออกไปรับกิจนิมนต์นอกวัด ก็ยังมีการรอเพื่อจะให้หลวงพี่น้ำฝน เจิมหน้า และกระเป๋าให้อย่างไม่ขาดสาย

ขณะที่ทางวัดไผ่ล้อม ได้มีการจัดโฆษกให้มีการพูดประชาสัมพันธ์เน้นย้ำไม่ให้งมงายกับวัตถุมงคลมากกว่า การขยันทำมาหากิน แต่ต้องมีการยึดหลักคำสอนของหลวงพ่อพูล ที่ได้มอบให้หลวงพี่น้ำฝน ได้นำมาปฏิบัติ คือ ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน และกตัญญูรู้คุณ ตลอดช่วงเวลาในการทำพิธีในวัดตั้งแต่เช้าจดเย็น ตามคำแนะนำของพระผู้บังคับบัญชา

ด้าน นายโชค มีทอง เจ้าของธุรกิจส่งคนงานเข้าทำงานในโรงงานผลิตรถยนต์ และนายแก้ว สุขเจริญ หรือแก้ว แมลงไทย บอกว่า มาเช่าบูชากระเป๋ามหามงคลจากกระแสข่าว เนื่องจากดูรายการที่มีการวิจารณ์กันแล้วเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี เนื่องจากจะได้กระเป๋าใหม่รับปีใหม่แล้ว ยังได้ร่วมทำบุญสร้างโรงพยาบาลนครปฐมด้วย ซึ่งเป็นการคิดแนวใหม่ที่สร้างสรรค์ และมองว่าไม่ได้งมงายแต่เป็นกำลังใจในการทำงาน โดยเหมือนกับทหารจะออกรบต้องมีแม่ทัพที่ดี สร้างกำลังใจที่ดีจึงจะไปทำอะไรประสบความสำเร็จ ซึ่งในแง่การตลาดถือว่าเป็นไอเดียที่ดี แต่แนวทางนี้เป็นกุศโลบายที่ทำให้คนเข้าวัดทำบุญ และสร้างกำลังใจได้ดีมาก

ด้าน นางวิไล ศรีอินทร์คำ เจ้าของโรงงานหล่อพระศรีอิทนทร์ปฏิมากร บอกว่า นับถือหลวงพ่อพูล และหลวงพี่น้ำฝน มานานกว่า 20 ปี ซึ่งเป็นความศรัทธมาตั้งแต่รุ่นพ่อ การที่มีการออกกระเป๋ามาถือว่าดีมาก เพราะมีความสวยงาม และมียันต์ของหลวงพ่อพูล และยังได้รับการเจิมจากหลวงพี่น้ำฝน ให้มีกำลังใจในการทำงาน ซึ่งการทำบุญแบบนี้ก็ได้รับทุกฝ่าย คนทำบุญได้กระเป๋าไปใช้ ซึ่งมีหลายราคา และการจะไปขอรับบริจาคเงินช่วยการกุศล ทุกวันนี้ก็ถือว่ายาก ทำแบบนี้เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ดี

โดยตลอดทั้งวัน คลื่นของคนที่มีความศรัทธาได้เดินทางเข้าวัดไผ่ล้อม ตลอดทั้งวันจนถึงช่วงเย็น และการที่มีกระแสข่าวของกระเป๋ามหามงคลดังกล่าวนั้น ส่วนหนึ่งแม้จะเป็นที่วิจารณ์ในสังคม โดยเฉพาะเรื่องการปลุกเสกกระเป๋า แต่ก็ยังมีประชาชนที่ยังศรัทธาออกมาตั้งคำถามว่า หากการเจิมกระเป๋าเป็นสิ่งที่ผิด ในส่วนของการที่มีการนำทะเบียนเลขสวย ของกรมการขนส่ง ออกมาประมูล ก็มีการนำป้ายทะเบียนมาทำการปลุกเสก ก่อนนำมาให้ประมูลนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะเป็นกรณีคล้ายกัน แต่อีกส่วนก็ยังมีการนำหลักวิชาการมถกเถียง และนำหลักในทางศาสนามาถกเถียงว่าเหมาะสมหรือไม่ ในเวลาเดียวกัน

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า วันนี้ก็ไม่อยากจะออกมาตอบโต้อะไรแล้ว เมื่อได้ชี้แจงไปยังเจ้าคณะตำบลพระปฐมเจดีย์ เจ้าคณะอำเภอเมืองนครปฐม และเจ้าคณะจังหวัดนครปฐม ไปแล้ว ซึ่งก็ได้ชี้ว่าไม่ได้ผิด แต่อาจจะมีกระแสที่หวือหวาในทางโลก วันนี้ได้ย้ำให้มีการ ปลูกความคิดว่าอย่าหวังรวยกับกระเป๋าหรือวัตถุมงคลซึ่งทางวัดก็ได้มีติดป้ายมานาน แต่ไม่มีใครหยิบประเด็นนี้ไปบอกสังคม มีแต่จะหาช่องทางมาหาทางจับผิดซึ่งอะไรที่สังคมบอกไม่เหมาะเราก็ทำ แต่นี่พระผู้บังคับบัญชาท่านไม่ได้มีมติสั่งห้าม ก็จะยังเดินหน้าหาปัจจัยช่วยทางโรงพยาบาลต่อไป มีบ้างที่คิดท้อ แต่เมื่อกลับไปคิดถึงภาพของผุ้ป่วยที่ยังรอการรักษา ต้องทิ้งตรงนั้นไปแล้วทำงานของเราต่อ

หลวงพี่น้ำฝน บอกอีกว่า สื่อเข้ามาเองที่วัดก็จะเห็นเอง วัดไผ่ล้อม เป็นวัดเปิด ใครสงสัยอะไรมาสอบถามได้ และสิ่งก่อสร้างภายในวัดก็บอกอยู่แล้วว่า เราทำอะไร การช่วยเหลือสังคมทำมา 20 ปี ไม่มีคนชม แต่พอเกิดกระแสกระเป๋าก็หยิบยกเรื่องต่างๆ มาโจมตี ซึ่งมีสื่อบางคนเขียนไปในแนวที่อาจจะเข้าข่ายหมิ่นประมาท ถ้าหากพบว่าเราถูกละเมิดก็อาจจะมีการฟ้องร้องเรียกความเป็นธรรมกลับมาให้ตัวเอง เนื่องจากบางคนเขียนโยงไปถึงเรื่องการเมือง ซึ่งมันไม่เกี่ยวกัน เราเป็นพระไม่ไปยุ่งเรื่องการเมือง มีแต่ทำการกุศลตามคำสั่งสอนของหลวงพ่อพูล ซึ่งตอนนี้มีปัจจัยพ่อที่จะสามารถซื้อเตียงผู้ป่วยแล้วหลายสิบตัวโดยกำลังหาที่ซื้อที่ได้ราคาเหมาะสม และได้สินค้าคุณภาพดี เตรียมส่งมอบชุดแรกไม่เกินกลางเดือนนี้แล้ว

“วันนี้มีลูกศิษย์ที่เป็นลูกจ้างที่ออกจากงานมาแล้วเดินหน้าทำตามหลักคำสั่งสอนที่บอก คือ ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน และรู้คุณคน เข้ามากราบ และเจิมหน้าเราเคยไปช่วยให้ทางสว่างเขา ตั้งแต่ไม่มีอะไร แค่ไม่ถึงปีจากลูกจ้างมีเงินเดือนๆ ละ 1.5 หมื่น วันนี้เปิดโรงงานมีมูลค่านับสิบล้าน ตรงนี้เราภูมิใจที่ช่วยให้เขาเกิดในธุรกิจได้ น่าชื่นชม” หลวงพี่น้ำฝน กล่าว

โดย นายกฤษณะ สีหะ และนางรัศมี พิมพรภิรมย์ สองสามีภรรยา เจ้าของบริษัท พรกฤษณ์โลหะสเตนเลส ในจังหวัดชลบุรี บอกว่า ตอนแรกไม่มีเงิน ทำงานออกมาก็ไม่คิดว่าจะสร้างโรงงานได้ แต่พอเริ่มลงเสาเอกแล้วนิมนต์หลวงพี่น้ำฝน ไปลงเสาเอก และให้คำสั่งสอนว่า ซื่อสัตย์ ขยัน อดทน และรู้คุณคน ลองยึดแนวนี้ดูทำแค่วางเสาเอกเสร็จมีคนมาจ้างงานไปทำสเตนเลส ในราคา 10 กว่าล้านบาท ไม่ถึงปีก็ได้โรงงานมาตอนนี้ใช้เงินก่อสร้างไปอีกนับสิบล้าน เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ได้เข้ามากราบขอพร โดยเป็นความเชื่อของครอบครัวที่เจอกับตัวเอง



กำลังโหลดความคิดเห็น