ยโสธร - เก็บทองเข้าตู้เซฟไม่หมด รุ่งเช้าลมแทบใส่ ทองรูปพรรณหนัก 17 บาทที่ลืมไว้หายเกลี้ยง เจ้าของร้านทองเผยกล้องวงจรปิดในร้านเสียแต่ไม่คิดซ่อมเพราะเชื่อว่าไม่มีโจรขึ้นบ้าน สุดท้ายโดนเองจนได้
รายงานข่าวแจ้งว่า เช้าวันนี้ (5 ม.ค.) ร.ต.อ.บรรจง หาญพังงู ร้อยเวรสอบสวน สภ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ได้รับแจ้งว่ามีเหตุลักทรัพย์เป็นทองคำรูปพรรณน้ำหนักจำนวนหลายบาท เหตุเกิดที่ร้านทองเยาวราช ตั้งอยู่ตรงข้ามกับ ธ.ก.ส.สาขามหาชนะชัย จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดยโสธรเข้าไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมกับได้เก็บรอยนิ้วมือแฝงเพื่อตรวจหาร่องรอยของคนร้าย โดยพบว่าที่ประตูด้านหลังร้าน มีร่องรอยถูกงัดจนเปิดออก ก่อนที่คนร้ายจะเข้าไปภายในร้านทองและรื้อค้นหาทรัพย์สิน ก่อนที่จะลักเอาทองคำรูปพรรณชนิดต่างๆ ทั้งสร้อยคอทองคำ สร้อยแขน แหวนและต่างหู มีน้ำหนักรวม 17 บาท ซึ่งเจ้าของร้านได้เก็บเอาไว้ภายในลิ้นชักเคาท์เตอร์จำหน่ายทองคำหน้าร้านหลบหนีไป
ส่วนตู้เซฟที่ใช้เก็บทองคำรูปพรรณทั้งหมดที่อยู่ทางด้านหลังร้าน ยังอยู่ในสภาพปกติไม่พบว่ามีร่องรอยถูกงัด แต่ในระหว่างที่คนร้ายกำลังหลบหนีออกทางด้านหลังร้าน มีเพื่อนบ้านข้างเคียงพบเห็นผู้ก่อเหตุเป็นชายกระโดดข้ามกำแพงรั้วบ้านหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว จึงตะโกนเรียกให้เจ้าของร้านทราบแต่ไม่สามารถติดตามได้ทัน
จากการสอบถาม น.ส.อารีสุข โสหา อยู่บ้านเลขที่ 279 หมู่ 2 ต.ฟ้าหยาด อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร เจ้าของร้านทอง เล่าว่า หลังจากปิดร้านเมื่อช่วงเย็นวานนี้ตนก็ได้เก็บทองคำรูปพรรณทั้งหมดใส่ตู้เซฟเก็บเอาไว้แต่ลืมไปว่ามีทองคำรูปพรรณอีกบางส่วน ซึ่งเป็นทองที่รับแลกเปลี่ยนมาจากลูกค้าที่เก็บเอาไว้ในลิ้นชักเคาน์เตอร์หน้าร้านก่อนที่ตนจะขึ้นไปนอนบนบ้านชั้นสองตามปกติ
จนกระทั่งรุ่งเช้า เวลาประมาณ 6 โมงเศษ ตนตื่นขึ้นมาและเดินทางมาชั้นล่างจึงพบว่ามีสิ่งของถูกรื้อค้นกระจัดกระจายและประตูหลังบ้านถูกงัดจนเปิดออก เมื่อไปสำรวจทรัพย์สินภายในร้านจึงพบว่ามีทองคำรูปพรรณชนิดต่างๆ ที่เก็บเอาไว้ในลิ้นชักเคาท์เตอร์น้ำหนักรวม 17 บาท มูลค่าประมาณ 340,000 บาท หายไป
จึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบและในขณะนั้นได้รับแจ้งจากเพื่อนบ้านว่าพบเห็นคนร้ายเป็นชายวิ่งออกจากทางด้นหลังร้านก่อนที่จะกระโดดข้ามกำแพงรั้วบ้านหลบหนีไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับกล้องวงจรปิดภายในร้านนั้นเสียไปนานแล้ว แต่ตนยังไม่ได้ซ่อมเพราะไม่คิดว่าจะมีคนร้ายบุกเข้าไปลักทรัพย์ภายในร้านดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เร่งลงพื้นที่เพื่อสืบสวนติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
