เชียงราย - ตำรวจตามรวบ-ส่งฝากขังแล้ว “ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน” มือยิงเสี่ยรับเหมาดับหลังขับเก๋งผ่านด่านตรวจชุมชน แต่ยังคงให้การปฏิเสธ ขณะที่ญาติ-ชาวบ้านฮือขึ้นโรงพักแม่สรวยขอดูหน้ามือปืน จนรอง ผบก.ภ.เชียงราย ต้องออกโรงห้าม พร้อมย้ำด่านฯ ที่เกิดเหตุตั้งตามนโยบายบริการประชาชนปีใหม่ ไม่มีกฎหมายรองรับ-ไร้อำนาจจับกุมดำเนินคดี
วันนี้ (4 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีนายศรชัย สถิตย์รักษ์ดำรง อายุ 35 ปี ที่อยู่ 517 ม.16 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ถูกยิงกระสุนเจาะท้ายทอยจนเสียชีวิต ขณะขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสัน สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 กอ 2137 กรุงเทพมหาคร พร้อมแฟนสาวคือ น.ส.ศิริรัตน์ แยเปียง อายุ 26 ปี ผ่านจุดตรวจบริการปีใหม่ชุมชนบ้านแม่ต๋ำ หมู่ 4 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย คืนวันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุด พ.ต.ต.กฤตนัน เวียงคำ สารวัตรเวร สภ.แม่สรวย ได้ขออนุมัติออกหมายจับนายวุฒิชัย อินใจ อายุ 46 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านป่าเหียง หมู่ 14 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา และต่อมาศาลได้อนุมัติหมายจับที่ 2/2561 แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รีบเข้าควบคุมตัวนายวุฒิชัย ก่อนนำไปฝากขังเพื่อสอบสวนที่ศาล จ.เชียงรายในวันเดียวกันทันที
ขณะที่กลุ่มญาติพี่น้องนายศรชัย (ผู้ตาย) และชาวบ้านห้วยน้ำขุ่น ที่เดินทางไปติดตามความคืบหน้าทางคดียังคงชุมนุมกันอยู่เต็มด้านหน้า สภ.แม่สรวย ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา กระทั่งบ่ายก็ยังไม่ได้คำชี้แจง จึงพากันลุกฮือจะเข้าไปขอดูตัวผู้ต้องหาภายในห้องขังของ สภ.แม่สรวย
พ.ต.อ.วีระยุทธ ประสพโชคชัย รอง ผบก.ภ.เชียงราย ที่ไปอำนวยการคลี่คลายคดีดังกล่าวได้เจรจากับชาวบ้านขอให้ออกจากอาคารของสถานีตำรวจเพื่อไม่ให้กระทำผิดกฎหมายบุกรุกสถานที่ราชการเสียเอง พร้อมแจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวผู้ต้องหาได้เรียบร้อยแล้ว 1 คน รวมทั้งได้นำตัวไปชี้จุดที่เกิดเหตุ และนำอาวุธปืนไปตรวจสอบ-ตรวจหาเขม่าดินปืนจากเสื้อผ้าที่สวมใส่ในคืนเกิดเหตุแล้ว
นอกจากนี้ยังมีการตรวจวิถีกระสุน จำลองเหตุการณ์ในคืนเกิดเหตุ โดยสอบปากคำบุคคลหลายคนในที่เกิดเหตุรวมทั้งผู้ต้องหาด้วย ขณะที่ทางตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานภาค 5 ก็เข้าตรวจรถยนต์ที่จอดอยู่ในโรงพักแม่สรวย และนำรถไปตรวจต่อที่สถานที่เกิดเหตุด้วย
พ.ต.อ.วีระยุทธชี้แจงกับชาวบ้านอีกว่า ตอนนี้ตัวผู้ต้องหาไม่ได้อยู่ที่ สภ.แม่สรวย แต่ได้ถูกนำไปฝากขังที่ศาลแล้ว
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านยังไม่พอใจ และพยายามจะขอดูตัวผู้ต้องหา รวมทั้งสงสัยว่าเหตุใดไม่มีการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ รวมทั้งอยากให้มีการนำตัวคนร้ายไปขอขมาศพผู้ตายด้วย
พ.ต.อ.วีระยุทธแจ้งว่า ไม่สามารถให้ดูตัวผู้ต้องหาได้เพราะผ่านพ้นกระบวนการนี้ไปแล้วโดยการดำเนินการแล้วเสร็จตั้งแต่เวลา 02-03.00 น.ที่ผ่านมา (4 ม.ค.) แต่ก็ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้จับแพะ โดยจากข้อมูลหลักฐาน และพยานต่างๆ บ่งชี้ชัดเจนว่ามีเพียงคนเดียวที่ยิงปืนในคืนเกิดเหตุ จึงมีการออกหมายจับ
พ.ต.อ.วีระยุทธกล่าวย้ำอีกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องภายในด่านตรวจชุมชนทั้งหมดรวมแล้ว 10 กว่าคน และมีผู้ที่ยอมรับว่ายิงปืนในคืนเกิดเหตุจริงจำนวน 1 คน คือ ผู้ต้องหา แต่ได้ปฏิเสธว่าไม่ได้ยิงใส่ผู้ตาย แต่ยิงขึ้นฟ้า หรือยิงไปจุดอื่นจำนวน 3 นัดด้วยปืนขนาด 9 มม. ซึ่งมีใบอนุญาต ป.4 (ใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน) ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำไปตรวจสอบเป็นหลักฐานพร้อมกับเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่เพื่อหาเขม่าดินปืนแล้ว ส่วนพยานบุคคลต่างๆ ก็ให้การสอดคล้องไปในทำนองเดียวกัน
“คดีนี้ไม่มีความสลับซับซ้อนเลย แต่เนื่องจากผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ จึงไม่มีการนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพและต้องดำเนินคดีเพื่อความรัดกุมของสำนวนต่อไป และหากว่าจะมีการขอประกันตัวก็คงต้องคัดค้านการประกันตัว”
พ.ต.อ.วีระยุทธกล่าวอีกว่า คดีนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง และกรณีของด่านตรวจชุมชนดังกล่าวก็เป็นด่านตามนโยบายที่ไม่มีกฎหมายรองรับ และไม่สามารถจับกุมดำเนินคดีบุคคลใดได้ เมื่อดูจากหนังสือคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ก็พบว่าเป็นด่านที่ตั้งขึ้นเพื่อดูแลลูกบ้านเท่านั้น ส่วนตัวผู้ตายนั้นก็ทราบดีว่าเป็นคนดี และเป็นที่รักของชาวบ้าน โดยเฉพาะได้ช่วยเหลือเรื่องการงานให้กับชาวบ้านหลายคน แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องมีขั้นตอนในการปฏิบัติเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายด้วยเช่นกัน
สำหรับด่านตรวจชุมชนบ้านแม่ต๋ำ ในคืนเกิดเหตุ (2 ม.ค.) ปรากฏรายชื่อคนเข้าเวรจำนวน 19 คน และมีนายวุฒิชัย ผู้ต้องหา รวมอยู่ด้วย และในคืนดังกล่าว นายศรชัย ซึ่งปกติทำงานรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ จ.ระยอง แล้วเดินทางกลับบ้านช่วงปีใหม่กำลังพา น.ส.ศิริรัตน์ออกจากหมู่บ้านไปส่งทำงานที่ จ.เชียงใหม่
แต่ขณะขับรถผ่านด่านตรวจชุมชน ได้มีการโบกมือจากคนในด่านตรวจอย่างน้อย 3-4 คน ซึ่งไม่ชัดเจนว่าโบกให้หยุดหรือให้ชะลอ จากนั้นภาพจากกล้องหน้ารถได้แสดงให้เห็นว่ารถได้ขับผ่านด่านตรวจไปเพียงเล็กน้อยนายศรชัยก็ถูกยิงจากด้านหลัง จนรถเสียหลักพุ่งลงข้างทางชนกับเสาไฟฟ้าหน้าวัดบ้านแม่ต๋ำดังกล่าว
