ศูนย์ข่าวศรีราชา - รวบ พนง.โรงแรม ก่อเหตุข่มขืน ลักทรัพย์ผู้ช่วยเภสัชกรในร้านขายยาเขตบางแสน ช่วงคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ สารภาพเกิดอารมณ์ทางเพศเพราะเห็นผู้เสียหายอยู่เพียงลำพัง ประกอบกับต้องการนำเงินไปใช้หนี้พนันบอลต่างประเทศ ขณะที่ ตร.ตั้งข้อหากระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ใช้กำลังประทุษร้าย และลักทรัพย์
วันนี้ (3 ม.ค.) พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมด้วย พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร รอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และ พ.ต.อ.จารุวัฒน์ สุริยาทิพย์ ผกก.สภ.แสนสุข ได้ร่วมกันแถลงข่าวที่ห้องประชุมชั้น 3 สภ.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังจับกุมตัวผู้ต้องหาก่อเหตุข่มขืนผู้ช่วยเภสัชกรประจำร้านขายยาแห่งหนึ่ง และลักเงินสด จำนวน 7,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เมื่อคืนวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 31 ธ.ค.2560 ที่ผ่านมา
พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี เผยว่า ผู้ก่อเหตุคือ นายสมเจน เตชะมา อายุ 29 ปี พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่ง โดยสามารถจับกุมตัวได้เมื่อเวลา 22.55 น. วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะกำลังเดินอยู่ ริมถนนสาย 7 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำหมายจับ ศาลจังหวัดชลบุรี เข้าจับกุม ในข้อกล่าวหากระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ ใช้กำลังประทุษร้าย และลักทรัพย์ในกลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ
ขณะที่ นายสมเจน ให้การรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมบอกว่า เงินที่ได้นำไปใช้หนี้พนันฟุตบอลต่างประเทศ ส่วนสาเหตุที่ลงมือข่มขืนเพราะเห็นว่าผู้เสียหายอยู่คนเดียว และเปิดร้านดึก ประกอบกับเกิดอารมณ์ทางเพศ จากนั้นได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปยังบ้านพักจนสามารถยึดรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิก สีเทา-ดำ ทะเบียน งขค 592 ชลบุรี ที่ใช้ในก่อเหตุ พร้อมเงินสด จำนวน 300 บาท กางเกงที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และเครื่องบันทึกภาพวงจรปิดภายในร้าน
สำหรับการจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 31 ธ.ค.2560 เจ้าหนาที่ตำรวจ สภ.แสนสุข ได้รับแจ้งจาก น.ส.พร (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้ช่วยเภสัชกร พนักงานขายยาประจำร้านยาปารดา เภสัช ตั้งอยู่ที่ 2/16 ถ.บางแสนสาย 2 ต.แสนสุข อ.เมืองชลบุรี ว่ามีคนร้ายทำทีเข้ามาขอซื้อยาหอม 1 ขวด ราคา 10 บาท และออกจากร้านไป ยืนสูบบุหรี่ประมาณ 2 มวน ก่อนจะทำทีขอซื้อยาหอมเพิ่ม โดยฉวยจังหวัดขณะที่ผู้เสียหายก้มนำเงินเก็บใส่ลิ้นชักใช้มีดคัตเตอร์ จี้ข่มขู่ ให้นอนหมอบลงกับพื้นหลังเคาน์เตอร์
จากนั้นได้ใช้เชือกที่เตรียมมามัดมือ และปิดประตูหน้าร้าน ก่อนลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง และยังรื้อค้นเอาทรัพย์สินเป็นเงินสด จำนวน 7,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และเครื่องบันทึกภาพวงจรปิดภายในร้านหลบหนี โดยขี่จักรยานยนต์คันก่อเหตุเป็นพาหนะ