จันทบุรี - เกิดเหตุช้างป่าบุกสวนลำไย ก่อนพุ่งตรงเข้าทำร้ายเจ้าของสวนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ส่วนลูกชายผู้ตาย ได้รับบาดเจ็บที่ไหล่จากการถูกช้างป่าถีบกระเด็น ขณะพยายามยื้อแย่งร่างของผู้ตายที่อยู่ในหว่างขาช้าง ด้าน นอภ.โป่งน้ำร้อน สั่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องออกตามหาหลังหลบหนีเข้าป่า พร้อมประกาศเตือนชาวบ้านให้ระวังอันตราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.30 น. วันนี้ (1 ม.ค.) นายพีรณัฐ รัตนวรโอภาส นายอำเภอโป่งน้ำร้อน ได้รับแจ้งจากชาวบ้านทุ่งกร่าง ม. 4 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ว่า มีคนถูกช้างป่าทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงสั่งการให้ปลัดอำเภอ นำ อส. ลงพื้นที่พร้อมกำนันตำบลทับไทร, เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว และ เจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสว่างกตัญญูธรรมสถานจันทบุรี
พบที่เกิดเหตุเป็นสวนผลไม้ ห่างจากถนนสายจันทบุรี - สระแก้ว ประมาณ 3 กิโลเมตร โดยมีผู้บาดเจ็บ 2 ราย คือ นาวาตรี ประภาส พรรณรัตน์ อายุ 59 ปี อดีตข้าราชการทหารพรานนาวิกโยธิน ข้าราชการบำนาญ อยู่บ้านเลขที่ 300 ม.3 ต.ทับไทร ซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตขณะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลโป่งน้ำร้อน
อีกรายชื่อ คือ นายอัครวัฒน์ พรรณรัตน์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60/13 หมู่ที่ 13 ต.ตะพง อ.เมืองระยอง ซึ่งเป็นบุตรชายของผู้ตาย โดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
จากการสอบถามชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ก่อนเกิดเหตุผู้ตายและลูกชาย ได้ยินสุนัขเห่าผิดสังเกตในสวนลำไย จนคาดว่าอาจจะเป็นขโมยเข้ามาขโมยลำไยในสวน จึงชวนกันนำไฟฉายเดินเข้าสวน โดยไม่ได้สังเกตเห็นว่ามีช้างป่าเข้ามาประชิดเบื้องหน้า และได้พากันวิ่งหลบหนี แต่ช้างป่า ได้ตรงเข้ากระแทกร่าง นาวาตรี ประภาส จนล้มก่อนจะใช้หัวกระแทกไปตามร่าง และเตะสลับอีกหลายครั้ง
ส่วน นายอัครวัฒน์ ได้พยายามที่ยื้อแย่งร่างของผู้ตายที่อยู่ในหว่างขาช้าง จนถูกช้างป่าถีบกระเด็นได้รับบาดเจ็บที่ไหล่ซ้าย จากนั้นช้างป่า ได่อาศัยความมืดหลบหนีเข้าป่า
ด้าน นายอำเภอโป่งน้ำร้อน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบพื้นที่พร้อมออกลาดตระเวนตามหาช้างป่าตัวดังกล่าว เพื่อทำการแจ้งเตือนชาวบ้านให้ระมัดระวัง เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุซ้ำขึ้นมาอีก