บุรีรัมย์ - ตาวัย 69 ปี ชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งมีอาชีพทำนา ได้พาครอบครัวลูกหลานไปทำบุญที่วัด เนื่องในวันปีใหม่ เพื่อนบ้านโทร.ไปบอกไฟลุกไหม้บ้าน จึงรีบกลับมาดูแทบช็อกเมื่อเห็นสภาพบ้านถูกไฟเผาวอดทั้งหลัง ลูกสาวถึงกับร่ำไห้ เพราะทรัพย์สินและเงินสดกว่าหมื่นบาท ที่ขายข้าวได้กลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา
เมื่อเวลาประมาณ 09.00 น. วันนี้ (1 ม.ค.) ร.ต.อ.สุทน กระจ่างจิตร รองสารวัตรสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ที่หมู่ 14 ตำบลเจริญสุข อ.เฉลิมพระเกียรติ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานรถดับเพลิงพื้นที่ใกล้เคียงร่วมรุดไปตรวจสอบ และระงับเหตุเพลิงไหม้
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ กำลังถูกไฟโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง เนื่องจากเป็นบ้านไม้เก่า ทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จากนั้นเจ้าหน้าที่ดับเพลิงก็ได้ช่วยกันระดมฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ ท่ามกลางความแตกตื่นตกใจของชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง
โดยเฉพาะ นางนิศา เอมโอช ลูกสาวเจ้าบ้านหลังเกิดเหตุ เมื่อมาเห็นสภาพบ้านที่ถูกไฟไหม้ถึงกับร้องไห้จนเป็นลมล้มพับ
จนเพื่อนบ้านต้องช่วยกันปฐมพยาบาลและนำตัวออกจากจุดเกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถระงับเพลิงไว้ได้ แต่ทั้งตัวบ้าน รวมถึงทรัพย์สินของมีค่าภายในบ้านก็ถูกเปลวเพลิงเผาวอดเสียหายไปทั้งหมดแล้ว
จากการสอบถาม นายน้อย เอมโอช เจ้าของบ้าน เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าได้พาครอบครัวลูกหลานไปทำบุญเนื่องในวันขึ้นปีใหม่ ที่วัดในหมู่บ้าน สักพักก็มีชาวบ้านโทร.ไปบอกว่า ไฟไหม้บ้านของตัวเอง จึงรีบกลับมาดูก็พบเจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันระดมฉีดน้ำดับไฟ แต่เนื่องจากเปลวเพลิงได้โหมลุกไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว ทำให้บ้านถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด
รวมถึงทรัพย์สินมีค่า และเงินสดอีกกว่า 1 หมื่นบาท ที่ได้จากการขายข้าวที่เก็บไว้ในบ้าน ซึ่งก็ไม่คาดคิดว่าครอบครัวจะโชคร้ายถูกไฟไหม้บ้านในวันปีใหม่แบบเหตุการณ์ดังกล่าวก็ทำให้ครอบครัวแทบหมดตัว
ด้าน พ.ต.อ.สมชัย โสภณปัญญาภรณ์ ผู้กำกับการ สภ.เฉลิมพระเกียรติ พร้อมด้วย น.ส.เพชรรัตน์ ภูมาศ นายอำเภอเฉลิมพระเกียรติ และ นายทินกร วรนุช นายก อบต.เจริญสุข หลังได้รับรายงาน ก็ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที พร้อมทั้งได้เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวผู้เสียหาย ทั้งจะได้หาแนวทางช่วยเหลือครอบครัวดังกล่าวด้วย