ไปดูกัน! สวนสัตว์อุบลฯเปิดตัวนกดึกดำบรรพ์ยุคจูราสสิก

อุบลราชธานี - สวนสัตว์อุบลราชธานี ฉลองปีใหม่ให้ชาวอีสานล่าง เปิดตัว “นกคาสโซวารี” นกดึกดำบรรพ์ขนาดใหญ่เกือบเท่านกกระจอกเทศ แต่มีสายพันธุ์เก่าแก่มาจากยุคจูราสสิก หรือเมื่อหลายล้านปีก่อน

นายสัตวแพทย์วันชัย ตันวัฒนะ ผู้อำนวยการสวนสัตว์อุบลราชธานี กล่าวถึงการนำนกดึกดำบรรพ์ “นกคาสโซวารี” ที่มีถิ่นกำเนิดจากทวีปออสเตรเลีย จัดแสดงฉลองเทศกาลปีใหม่ 2561 ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกันอย่างใกล้ชิด บริเวณโซนแสดงมินิซู สวนสัตว์อุบลราชธานี โดยนกคาสโซวารีเป็นนกขนาดใหญ่ที่บินไม่ได้ มีถิ่นอาศัยอยู่ในป่าเขตร้อน และเป็นนกสืบเชื้อสายมาจากนกดึกดำบรรพ์สมัยยุคจูราสสิกเมื่อหลายล้านปีก่อน โดยเป็นนกที่มีความสูงเป็นอันดับที่ 3 ของโลก ตัวใหญ่รองจากนกกระจอกเทศ และนกอีมู นกคาสโซวารีเป็นสัตว์ขี้อาย แต่เมื่อถูกรบกวนสามารถทำให้คนและสัตว์ได้รับอันตรายจากคมของเล็บเท้าซึ่งมีความคมเหมือนใบมีดเนื้อดี รวมทั้งยังมีความแข็งแรงใช้ตัดแผ่นอะลูมิเนียมให้ขาดได้อย่างสบาย การจัดแสดงต้องทำรั้วกั้นเป็นสองชั้นเช่นเดียวกับกรงจัดแสดงเสือและสิงโต ไม่ให้ผู้เข้าชมอยู่ใกล้นกจนเกินไป

สำหรับนกคาสโซวารีที่นำมาแสดงตัวนี้ เป็นเพศเมียที่มีสีสันสดใส และตัวใหญ่กว่าตัวผู้ สูงประมาณ 1.5-1.8 เมตร หนัก 58.5 กิโลกรัม อาหารหลักของนกคาสโซวารี คือ ผลไม้ หน่อไม้ เมล็ดพืช เห็ด หอยทาก หนู แมลง นก ปลา เเละซากสัตว์

“นกคาสโซวารี” เป็นนกที่มีความสำคัญต่อการเติบโตของพันธุ์ไม้ป่า เพราะมันจะทำให้เมล็ดแตกหน่อจากการกินและถ่ายมูลออกมา นอกจากนี้ นกคาสโซวารีสามารถวิ่งเร็วได้ถึง 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กระโดดได้สูงถึง 1.5 เมตร มีหงอนแข็งที่หัวใช้เเหวกพุ่มไม้เวลาเดินเข้าไปในป่า โดยหงอนสามารถสูงถึง 17 เซนติเมตร และยาว 15 เซนติเมตร

นกคาสโซวารีโตเต็มที่เมื่อมีอายุ 3 ปี มีอายุขัยตามธรรมชาติได้นาน 12-19 ปี และอาจจะถึง 40 ปี เมื่อถูกเลี้ยงดูอยู่ในสวนสัตว์ และเป็นสัตว์อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ เพราะถูกทำร้ายจากการล่า การวางลวดหนามดัก นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมความยิ่งใหญ่ของนกโบราณนี้