อุบลราชธานี-ตร.ไล่กวดจับหนุ่มลูกชาย ผอ.โรงเรียนในเมืองอุบลฯพร้อมเพื่อนซิ่งแหกด่านหนีเป่าแอลกอฮอล์ไปรอบเมืองกว่า 40 กม.สุดท้ายจนมุม สารภาพที่ต้องซิ่งหนีเพราะกลัวถูกจับเพิ่งเสพยาบ้ากันมา
เมื่อเวลา 02.45 น. วันนี้( 31 ธ.ค.)ร.ต.อ.ไชยา บุญวิจิตร รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองอุบลราชธานี พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ได้ตั้งด่านบริเวณปากซอยแจ้งสนิท 6 ถ.แจ้งสนิท ต.ในเมือง พบรถยนต์ฮอนด้าซีวิคสีบรอนเงินทะเบียน กย 1163 อุบลราชธานี มีชายต้องสงสัยนั่งมาในรถจำนวน 3 คน จึงเรียกให้หยุดตรวจค้น
แต่คนขับกลับรถย้อนศรแล่นหลบหนี จึงนำรถยนต์สายตรวจไล่ติดตามไปตามถนนต่างๆ กระทั่งข้ามไปยังอำเภอวารินชำราบ และมุ่งหน้าไปอำเภอเดชอุดม
จึงตัดสินใจนำรถยนต์สายตรวจเข้าเบียดด้านข้าง ทำให้รถคัดดังกล่าวติดเกาะกลางถนนสายวารินชำราบ-เดชอุดม บริเวณข้างตลาดนิกรธานี ต.ธาตุ อ.วารินชำราบ เจ้าหน้าที่ที่ไล่ติดตามได้กรูกันลงไปบังคับชายทั้ง 3 คน อย่าต่อสู้ขัดขืนและนำตัวออกจากรถมาตรวจค้นตัว ไม่พบสิ่งของผิดกฏหมาย และเมื่อค้นในรถก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ
เมื่อให้นายภูวดล จันทรักษา อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96 บ้านโนนตูม หมู่ 6 ต.พังเคน อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี เป่าตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ปรากฏมีปริมาณแอลกอฮอลเพียงเล็กน้อย ไม่เกินปริมาณที่กฏหมายกำหนด แต่เมื่อทำการตรวจปัสสาวะนายภูวดล นายธีรเจต ถนอมนวล อายุ 24 ปี และนายถิรวัฒน์ ศรีพรหม อายุ 23 ปี พบเป็นสีม่วงทั้ง 3 คน
จึงนำตัวมาสอบสวน นายภูวดลยอมรับว่า เป็นบุตรชายของผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดอุบลราชธานี และมีอาชีพรับทำป้ายไวนิลอยู่ในอำเภอนาตาล ก่อนถูกจับได้เสพยาบ้าเข้าไปจำนวน 4 เม็ด ส่วนเพื่อนอีก 2 คน ก็เสพยาบ้าเข้าไปจำนวนหนึ่งด้วย แล้วได้พากันมานั่งดูการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่บ้านเพื่อนในซอยแจ้งสนิทดังกล่าว
หลังบอลเตะจบ จะพากันออกมาหาข้าวกิน ก็มาเจอกับด่านของเจ้าหน้าที่ ทำให้กลัวถูกจับฐานเสพยาเสพติด จึงได้พยายามขับรถหลบหนี โดยขับรถทั้งย้อนศรและวนไปตามถนนต่างๆรอบตัวเมืองอุบลราชธานี ก่อนไปจนมุมบริเวณเกาะกลางถนนข้างตลาดนิกรธานีในเขตอำเภอวารินชำราบ คิดเป็นระยะทางที่ขับหลบหนีไกลกว่า 40 กิโลเมตร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายภูวดลขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น เป็นผู้ขับรถที่เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฏหมาย ส่วนเพื่อนอีก 2 คน ถูกแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฏหมาย คุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป