ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ชาวบ้านสงสัย กรณีโฆษกวัดดังเชียงใหม่ อ้างถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าสิงร่างจนแสดงพฤติกรรมเกรี้ยวกราดตะโกนลั่น และทำข้าวของกระจายไล่กลุ่มผู้หญิงลงจากพระอุโบสถเพราะลบหลู่ความเชื่อล้านนา ขณะที่เจ้าอาวาส ชี้ เป็นความเชื่อส่วนบุคคลต้องใช้วิจารณญาณ ด้านโฆษกวัดระบุ ในชีวิตไม่เคยเชื่อเรื่องเจ้าเข้าทรง แต่ครั้งนี้ยืนยันถูกสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าสิงร่างจริง
ความคืบหน้ากรณีกลุ่มผู้หญิงมีอายุเข้าไปในอุโบสถเก่าแก่อายุกว่า 500 ปี ของวัดศรีสุพรรณ ในตัวเมืองเชียงใหม่ ทั้งที่มีป้ายห้ามผู้หญิงเข้าแจ้งบอกไว้อย่างชัดเจน เนื่องจากเป็นความเชื่อและจารีตประเพณีของชาวล้านนา แต่ยังฝ่าฝืน และต่อมีการนำเรื่องราวพร้อมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ไปเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย จนทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และตำหนิพฤติกรรมดังกล่าวอย่างกว้างขวาง โดยอีกหนึ่งประเด็นที่มีการกล่าวถึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับการที่โฆษกของวัดได้แสดงอาการโกรธเกรี้ยวกราดตะโกนโวยวายไล่ผู้หญิงกลุ่มดังกล่าวลงจากอุโบสถ พร้อมทั้งมีเสียงสิ่งของในอุโบสถตกกระทบพื้นและประตูถูกกระแทกอย่างแรงด้วย ซึ่งโฆษกของวัดอ้างว่าพฤติกรรมดังกล่าวกระทำไปอย่างไม่รู้ตัว และเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าสิงในร่างทำให้แสดงพฤติกรรรมเช่นนั้นออกมา ซึ่งมีผู้คนและชาวชุมชนใกล้เคียงแสดงความเห็นไปต่างๆ นานา ทั้งเชื่อและมองว่าเป็นเรื่องงมงายหรือหลอกลวง
วันนี้ (29 ธ.ค.) พระครูพิทักษ์สุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดศรีสุพรรณ เปิดเผยว่า ในส่วนของเรื่องที่มีการแสดงความเห็นเกี่ยวกับโฆษกของวัดว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์เข้าสิงในร่างหรือไม่ จึงทำให้แสดงพฤติกรรรมดังกล่าวออกมานั้น มองว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคลและวิจารณญาณของแต่ละคน ที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ซึ่งไม่สามารถไปชี้นำกันได้ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความเชื่อที่ห้ามผู้หญิงขึ้นไปบนพระอุโบสถนั้น เป็นสิ่งที่ทางวัดห้ามและชาวล้านนายึดถือปฏิบัติมาตลอดตั้งแต่โบราณอย่างแน่นอน เพราะเชื่อกันว่า หากผู้หญิงขึ้นไปบนพระอุโบสถ จะทำให้เครื่องรางของขลังที่ถูกฝังใต้พระอุโบสถจะเสื่อม และตัวผู้หญิงเองจะมีอันเป็นไป ซึ่งทางวัดเตรียมที่จะจัดพิธีขอขมาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอุโบสถเงินหลังดังกล่าวในวันที่ 31 ธ.ค. 60 ในช่วงที่ทางวัดมีการจัดพิธีสวดมนต์ข้ามปี เพื่อความเป็นศิริมงคลและความสบายใจของทุกฝ่าย
ขณะที่ นายสวรรค์ แคว้นไธสง อายุ 54 ปี โฆษกของวัดศรีสุพรรณ ซึ่งเป็นผู้ที่ไล่กลุ่มผู้หญิงที่ฝ่าฝืนข้อห้ามและความเชื่อลงจากพระอุโบสถ ยืนยันว่า พฤติกรรมที่แสดงออกไปในช่วงที่ไล่ผู้หญิงลงจากพระอุโบสถนั้น กระทำไปโดยไม่รู้สึกตัวจริงๆ ซึ่งโดยส่วนตัวไม่เคยเชื่อถือเรื่องเกี่ยวกับการเข้าทรงเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใดๆ ทั้งสิ้น แต่จากกรณีที่เกิดขึ้นนี้เชื่ออย่างสนิทใจว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาวัดอยู่อย่างแน่นอนที่มาเข้าร่างของตัวเองแล้วแสดงพฤติกรรมดังกล่าวออกมาเพื่อขับไล่คนที่มาลบหลู่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดและความเชื่อที่สืบทอดมาตั้งแต่โบราณ ทั้งนี้ เชื่อด้วยว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เข้าร่างของตัวเองนั้น น่าจะเป็นยักษ์กุมภัณฑ์ที่ปกปักรักษาวัดอยู่