รวบน้าแท้ๆ ร่วมเพื่อนลวงหลานชายทุบหัวฆ่าโหดกลางทุ่งนาบุรีรัมย์ คาดปมธุรกิจมืด หวังเงินประกัน

บุรีรัมย์ - ตำรวจ สภ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ รวบน้าชาย พร้อมเพื่อนลวงหลานแท้ๆ วัย 39 ปี ทุบท้ายทอยฆ่าโหดทิ้งศพกลางทุ่งนา สารภาพแค้นถูกผู้ตายโกงเงินที่ทำธุรกิจร่วมกัน แต่ ตร.ไม่ปักใจเชื่อ คาดปมสังหารขัดแย้งธุรกิจที่มืด หรือหวังเอาเงินประกัน เพราะผู้ตายมีประกันชีวิตวงเงินนับล้าน เร่งสอบสวนหาหลักฐาน คุมตัวชี้จุดเกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพ

วันนี้ (29 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้ากรณีที่มีผู้พบศพ นายทศพล วิเชียร อายุ39 ปี ถูกทำร้ายด้วยการใช้ของแข็งกระหน่ำตีบริเวณท้ายทอยเป็นแผลฉกรรจ์ นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่บริเวณทุ่งนาติดริมคลองส่งน้ำบ้านทุ่งไผ่ ต.ปะคำ อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปะคำ ได้ลงพื้นที่เก็บหลักฐาน พร้อมสืบสวนสอบสวนหาชนวนเหตุ และเบาะแสคนร้ายที่ลงมือสังหาร นายทศพล

กระทั่งต่อมา ทราบตัวผู้ก่อเหตุเนื่องจากมีพยานหลักฐานชัดเจน จึงได้ขออนุศาลจังหวัดนางรอง ออกหมายจับผู้ก่อเหตุ จำนวน 2 คน คือ นายอำนาจ กัณหาชัย อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นน้องชายแม่ของผู้ตาย หรือมีศักดิ์เป็นน้าแท้ๆ ของผู้ตายเอง และนายสิม จันทร์อาหาร อายุ 46 ปี ซึ่งเป็นเพื่อน มีภูมิลำเนาอยู่ ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันลงมือฆ่า นายทศพล จริง โดยนายอำนาจ ผู้เป็นน้าได้เป็นคนไปล่อลวง นายทศพล หลานชายมาจากบ้าน โดยใช้อุบายหลอกว่าจะพาไปดูต้นไม้ที่จะพากันไปตัดเพื่อนำไปขายที่บริเวณทุ่งนาจุดที่พบศพ เมื่อนายทศพล หลงเชื่อเดินทางไปด้วย เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ ไปพบกับ นายสิม รออยู่ที่จุดเกิดเหตุแล้วโดยมีเยาวชนวัย 14 ปีอยู่ด้วย จากนั้นทั้ง 4 คน นั่งคุยกันอยู่สักพัก แล้ว นายอำนาจ ทำทีชวนนายทศพล หลานชาย เดินไปดูต้นไม้ที่อ้างว่าจะพากันตัดไปขาย โดยจังหวะที่ นายทศพล เดินไปดูต้นไม้ นายสิม ได้ใช้ท่อนเหล็กยาวกว่า 1 เมตร ที่เตรียมมาด้วยกระหน่ำตีที่บริเวณท้ายทอยของ นายทศพล 1 ครั้ง จนล้มฟุบกับพื้นดินกลางทุ่งนา แล้วตีซ้ำอีก 2 ครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิต ก่อนพากันหลบหนีไป

โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 อ้างว่า สาเหตุที่ลงมือฆ่า นายทศพล เพราะแค้นที่นายทศพล โกงเงินที่ทำธุรกิจร่วมกันหลายครั้งทำให้เกิดความไม่พอใจ จึงได้วางแผนลวงมาฆ่าดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของผู้ต้องหา โดยตั้งปมสังหารไว้ 2 ประเด็นหลักๆ คือ ขัดแย้งผลประโยชน์ธุรกิจที่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมาย และอาจฆ่าเพื่อหวังเอาเงินประกันชีวิตของผู้ตาย เพราะจากข้อมูลพบว่า ผู้ตายมีประกันชีวิต 2 บริษัท มีวงเงินประกันหลักล้านบาท ซึ่งจะได้ทำการสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลหลักฐานเพิ่มเติม

ส่วนเยาวชนอายุ 14 ปี ที่อยู่ในเหตุการณ์ปฏิเสธว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อการฆาตกรรมโหดครั้งนี้ แต่ถูกหลอกให้ไปช่วยตัดไม้ ไม่ได้รู้เห็นต่อเหตุการณ์ดังกล่าวเลย เจ้าหน้าที่จึงได้กันตัวไว้เป็นพยาน

ล่าสุด พ.ต.อ.โรมรัน จินดานุภาพ ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ปะคำ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชิษณุพงษ์ เถียรกิตติพงษ์ รอง ผกก.สภ.ปะคำ พ.ต.ท.ศุภศิษฐ์ สมศรี สารวัตร (สอบสวน) สภ.ปะคำ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งใน และนอกเครื่องแบบได้ควบคุมตัว นายอำนาจ และ นายสิม ผู้ต้องหาทั้ง 2 ไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางประชาชนมามุงดูจำนวนมาก

ส่วนใหญ่ต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของผู้เป็นน้า ที่ฆ่าได้แม้แต่หลานแท้ๆ ของตัวเอง หลังทำแผนเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยเบื้องต้นได้แจ้งหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน”