xs
xsm
sm
md
lg

3 จว.ภาคกลางเป็นศูนย์ลดอุบัติเหตุรับปีใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - 3 จังหวัดภาคกลางเปิดจุดบริการประชาชนในช่วง 7 วันอันตรายหวังลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

วันนี้ (28 ธ.ค.) ที่บริเวณหน้าตู้ตำรวจทางหลวงวังมะนาว ต.วังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี พ.ต.อ.อรรถวุฒิ อ่อนทรัพย์ รองผู้บังคับการตำรวจทางหลวง พร้อมด้วย พ.ต.อ.ณรงค์เดช ศักดิ์สมบูรณ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี และนายปทีบ นทีทวีวัฒน์ นายอำเภอปากท่อ ได้ร่วมกันเป็นประธานในพิธีปล่อยขบวนรถเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อส.ตร. รถพยาบาล เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯและเจ้าหน้าที่ของแขวงการทางจังหวัดราชบุรี ให้ไปปฎิบัติหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และรักษาความปลอดภัยป้องกันและลดอุบัติเหตุทางท้องถนนให้กับประชาชนที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ซึ่งจะมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน

พร้อมทั้งเปิดจุดบริการเพื่อให้ผู้ขับขี่ที่ง่วงนอนได้แวะพักผู้ที่มีปัญหากับยานพาหนะสามารถเข้าทำการตรวจเช็ดสภาพรถ โดยมีกลุ่มอาชีวะศึกษา มาตั้งเต้นท์อำนวยความสะดวกให้ ตั้งแต่วันที่ 28 ธ.ค. 60-3 ม.ค.61 ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้ป้องกันและลดอุบัติบนท้องถนนลง

นอกจากนี้ที่จุดบริการทางหลวงยังมีบริษัทเอกชนได้มาร่วมนำเครื่องดื่มและน้ำมาแจกจ่ายให้กับผู้ที่ใช้เส้นทางสายนี้เพื่อภูมิลำเนา และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงก็ได้นำลูกอมหลวงปู่ทวด ที่มีรสชาติเปรี้ยวจัด ซึ่งได้ให้พระเกจิชื่อดังได้ทำการลงคาถาอาคมเพื่อความเป็น ศิริมงคล เพื่อแจกให้กับผู้ขับขี่รถ โดยเชื่อว่า อมแล้วดี ขับขี่ปลอดภัย ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่นั้นไม่ง่วงนอนและสามารถกลับถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย

สำหรับการจราจรบริเวณถนนพระราม 2 ซึ่งเป็นถนนสายหลักที่จะมุ่งหน้าลงสู่ภาคใต้นั้นการจราจรยังไม่ค่อยหนาแน่น เนื่องจากยังไม่ใช่วันหยุด คาดว่าในช่วงเย็นของวันที่ 29 ธ.ค. ซึ่งจะเป็นวันทำงานสุดท้ายของปีนั้นปริมาณรถที่จะมุ่งหน้าลงสู่ภาคใต้นั้นจะมากขึ้นตามลำดับ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้จัดจุดบริการและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนตลอดเส้นทาง

ในส่วนของบริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดนครปฐม นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 ภายใต้หัวข้อการรณรงค์ “ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร” โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและภาคเอกชนรวมทั้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและสถาบันการศึกษา ร่วมปฏิบัติงานตามมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนระหว่าง 28 ธันวาคม 2560 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2561

โดยมีเป้าหมายในการดำเนินการในภาพรวม ให้สามารถลดจำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ จำนวนผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิต ให้เหลือน้อยลงที่สุด เมื่อเทียบกับสถิติในช่วงเทศกาลปีใหม่เฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง กล่าวคือ การเกิดอุบัติเหตุน้อยกว่า 69 ครั้ง ผู้บาดเจ็บน้อยกว่า 71 ราย และผู้เสียชีวิตน้อยกว่า 8 ราย

นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนจังหวัดนครปฐม ได้กำหนดแผนบูรณาการในการดำเนินงานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยมุ่งเน้นลดปัจจัยเสี่ยงใน 6 ด้าน ประกอบด้วย ด้านคน ด้านถนนและสภาพแวดล้อม ด้านยานพาหนะ การดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว การดูแลความปลอดภัยทางน้ำ

และด้านการช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ ควบคู่กับการสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนนให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทในการดำเนินการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนมากขึ้น

และที่บริเวณสี่แยกทุ่งพระเมรุ อำเภอเมืองนครปฐม นายเอกพันธุ์ คุปตวัช นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครปฐม พร้อมด้วย พล.ต.ต.คำรณ บุญเลิศ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม เจ้าหน้าที่ ทหาร สังกัดกองบังคับการเรือนจำมณฑลทหารบก ที่ 11 ตำรวจ เจ้าหน้าที่แพทย์พยาบาลโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม และ เจ้าหน้ามูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม

โดยนายเอกพันธุ์ คุปตวัช นายกเทศมนตรีเทศบาลนครนครปฐม กล่าวว่า ในการเปิดศูนย์อำนวยการดังกล่าว เทศบาลนครนครปฐม ได้ตระหนักกถึงเรื่องอุบัติหตุบนท้องถนนซึ่งเริ่มมีการจัดทำโครงการ วันที่ 28 ธันวาคม 60 ถึงวันที่ 3 มกราคม 61 โดยจะเน้นการบริการด้านการจราจร เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นทั้งขาไปและขากลับ ซึ่งถนนเพชรเกษมเป็นเส้นทางที่จะเป็นการเชื่อมต่อลงไปสู่ภาคใต้และกลับเข้ากรุงเทพมหานคร และคาดว่าปีนี้จะมีรถที่วิ่งบนท้องถนนมากกว่าทุกปี

ซึ่งทางเทศบาลนครนครปฐมได้จัด บุคลากร รวมถึงรถประเภทต่าง ๆ รวมทั้ง มีการนำเครื่องดื่ม และบริการต่างๆในจุดพักก่อนถึงกรุงเทพซึ่งจะเป็นช่วงขากลับที่ประชาชนที่ขับรถมายาวนานอาจจะเกิดความเหนื่อยล้า ซึ่งจะนำมาซึ่งอุบัติเหตุ ที่สร้างความสูญเสียที่ไม่ควรจะต้องเกิดขึ้นด้วย โดยในปีนี้ได้รับการร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนหลายหน่วยงานเป็นอย่างดีอีกด้วย



กำลังโหลดความคิดเห็น