อุตรดิตถ์ - นายอำเภอพิชัยปิดห้องเคลียร์ใจ-สงบศึกนายก ทต.ท่าสัก-ปลัดฯ คาดผวาเจอ ม.44 เหมือนนายกเล็ก-ปลัดฯ คู่ขัดแย้งอีกคู่เคยโดนมาแล้ว ทำทั้งคู่ยอมหย่าศึก พร้อมกำชับหากมีปัญหาอีก เสนอผู้ว่าฯ ชงเรื่องจัดการขั้นเด็ดขาดทันที
วันนี้ (28 ธ.ค.) นายเจษฎา ลิ้มศรีตระกูล นายอำเภอพิชัย จ.อุตรดิตถ์ ได้เรียกนายยิ่งใหญ่ อายะนันทน์ อดีตนักแสดงชื่อดัง ในฐานะนายกเทศมนตรีตำบลท่าสัก อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และนายวิภูษิต อินทรชัยศรี ปลัด ทต.ท่าสัก เข้ามาพูดคุยและหาทางออกที่ทั้งสองขัดแย้งกัน โดยมีผู้แทนท้องถิ่นจังหวัดอุตรดิตถ์ และนายอารัญ จันทร์ฟัก ท้องถิ่น อ.พิชัย ร่วมเป็นตัวกลางในการเจรจา
หลังนายยิ่งใหญ่โพสต์ภาพเทศบาลฯ ร้าง พร้อมข้อความบนเฟซบุ๊กว่า “ความว่างเปล่าเวลานี้ 14.40 น.ที่เทศบาลท่าสัก ศุกร์-สุกข์กันมากเลยครับท่านผู้ชม ว่างแม้นกระทั่งห้องทำงาน ภาพที่ถ่ายทั้งหมดเวลา 14.40 น.วันศุกร์ที่ 22 ธันวาคม 2560” ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าข้าราชการ-เจ้าหน้าที่หนีราชการจริง แต่ยังมีปัญหาเกี่ยวกับปมขัดแย้งระหว่างนายกเทศมนตรีฯ กับปลัดฯ อยู่
โดยก่อนการเจรจานายอำเภอพิชัยได้อนุญาตให้สื่อมวลชนที่รอทำข่าวการหารือครั้งนี้ถ่ายภาพได้เท่านั้น แต่ไม่อนุญาตให้นั่งฟังการหารือเพื่อหาทางออกและยุติข้อขัดแย้งแต่อย่างใด
ต่อมานายเจษฎาได้ให้สัมภาษณ์ว่า ทั้งคู่ยอมที่จะอ่อนข้อเข้าหากันแล้ว การทำงานต่อไปทั้งสองฝ่ายจะทำตามระเบียบยึดกฎหมายเป็นที่ตั้ง พฤติกรรมต่างๆ ที่เคยกระทำต่อกัน ก็จะปรับเข้าหากัน ไม่ให้ทั้งสองพูดผ่านสื่อมวลชนแล้ว จะต้องอยู่และร่วมงานกันให้ได้ นายกอยู่สูงก็ลดลงมาบ้าง ปลัดฯ อยู่ต่ำไปก็ปรับให้สูงขึ้น จะไม่ทะเลาะกัน เพราะการทะเลาะกันไม่เกิดผลดีทั้งสองฝ่าย ให้ทำงานโดยยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง
ส่วนหนึ่งที่ทั้งสองยอมยุติเรื่องขัดแย้งกัน น่าจะมาจากเรื่องที่นายเสฐียรพงศ์ มากศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดเข้าจัดการเอง คือ ชงเรื่องให้ คสช.ใช้มาตรา 44
“หากยังเกิดเรื่องขึ้นอีก จะไม่มีการเจรจาอีกแล้ว จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดอย่างที่ผู้ว่าฯ เสนอไว้ก่อนหน้านี้ และหลังจากทำบันทึกยุติเรื่องกันแล้ว จะให้ท้องถิ่น อ.พิชัยติดตามพฤติกรรมและการทำงานของบุคลทั้งสองต่อไปว่าจะจบอย่างที่เจรจาหรือไม่”
นายเจษฎากล่าวว่า ช่วงเช้าได้พบกับนายเสฐียรพงศ์ มากศิริ ผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ โดยย้ำว่า ให้รีบดำเนินการคุยกันให้รู้เรื่องและให้จบโดยเร็ว เพราะหากไม่จบก็จะโดนทั้งคู่ ซึ่งหมายถึงว่าทั้งนายกเทศมนตรีฯ กับปลัดฯ ไม่สามารถพูดคุยหรือมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมถอย ก็จะตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด จะให้นายธีรวัฒน์ วุฒิคุณ รองผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ ในฐานะประธานกรรมการพนักงานเทศบาลจังหวัด (กท.จ.) อุตรดิตถ์ เป็นประธานสอบสวนเรื่องราวความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับทั้งคู่ พร้อมมีข้อเสนอภายใน 45 วัน หากเสร็จไม่ทันก็จะขยายได้อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 30 วัน
จากนั้นก็จะเสนอไปยังคณะกรรมการพนักงานเทศบาล (กท.) ส่วนกลางดำเนินการ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยดำเนินการมาแล้วกับ ทต.แห่งหนึ่งใน อ.เมืองอุตรดิตถ์ ที่นายกเทศมนตรีกับปลัด ทต.ขัดแย้งกัน ผลคือ ทั้งนายกเทศมนตรี และปลัดฯ ถูกให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่ตัดสินว่าใครถูกใครผิด แต่ทั้งสองคนก็ไม่ได้ทำงานในตำแหน่งอีกเลย