ศูนย์ข่าวศรีราชา - “บิ๊กโจ๊ก หวานเจี๊ยบ” แถลง 3 คดีรวดต่างชาติแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวก่อภัยความมั่นคงช่วงเทศกาลปีใหม่ พร้อมผลักดันออกนอกราชอาณาจักร
วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวพัทยา จ.ชลบุรี พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท.พร้อมด้วย พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ตร.ทท.พัทยา กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว สตม.บช.ปส.สพฐ บก.ปคม. สภ.เมืองพัทยา และเจ้าหน้าที่ทำการ ร่วมแถลงข่าวผลการระดมกวาดล้างกลุ่มชาวต่างชาติแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวที่ก่อภัยต่อความมั่นคงในห้วงเทศกาลปีใหม่ โดยมีผลการปฏิบัติสามารถจับกุม และกวาดล้างผู้ต้องหาได้รวม 3 คดี ประกอบด้วย 1.แก๊งคอล เซ็นเตอร์ชาวมาเลเซีย 2.แก๊งโรแมนซ์สแกม หลอกผู้เสียหายโอนเงินกว่า 10 ล้านบาท และ 3.การกวาดล้างกลุ่มต่างชาติลักลอบอยู่เกินที่กฎหมายกำหนด และเตร็ดเตร่ค้าประเวณี เป็นหญิงชาวอูกันดา ที่เป็นเหยื่อการค้ามนุษย์รวม 30 ราย
โดยรายแรกจับกุม นายเหลียง ซุน แวง (Mr.Leong Soon Weng) และนายซุง ดี ฮง (Shoong De Horng) 2 ผู้ต้องหาสัญชาติมาเลเซีย โดยพบว่า ร่วมกันมีเพื่อนำออกใช้และใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและประชาชน โดยตรวจยึดของกลางเป็นสมุดบัญชีธนาคารไทย 19 เล่ม บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของบุคคลอื่นรวม 19 ใบ บัตรอิเล็กทรอนิกส์ธนาคารต่างประเทศ 8 ใบ เงินสกุลไทย 1.1 แสนบาท เงินสกุลต่างประเทศคิดเป็นเงินไทย 1.4 หมื่นบาท ใบเสร็จการโอนเงิน 38 ใบ ซิมการ์ดโทรศัพท์ 5 ชิ้น และของกลางอื่นๆ อีก 7 รายการ หลังสืบทราบว่า ทั้ง 2 ทำหน้าที่เป็นหน้าม้านำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นไปทำธุรกรรมกดเงินในบัญชีตามตู้ ATM ต่างๆ ในเมืองพัทยา เป็นเครือข่ายกลุ่มฉ้อโกงประชาชนผ่านาโทรศัพท์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และแก๊งคอล เซ็นเตอร์
รายที่ 2 จับกุม 2 หนุ่มไนจีเรีย แก๊งโรแมนซ์สแกน คือ นายจอห์นสัน ชูค่า อานี่ (Johnson Chu ka Ani ) และนายลูเค่ มาดุคเว่ (Luke Madukwe) ร่วมกับหญิงไทย คือ น.ส.ฐิติกันต์ รัตนกิตติพงศ์ หลอกโอนเงินสเน่หากว่า 10 ล้านบาท โดยจับกุม น.ส.ฐิติกานต์ รัตนกิตติพงศ์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฉ้อโกงประชาชนรวม 11 หมาย หลังสืบทราบว่า ทั้งหมดร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายผ่านทาง Facebook โดยใช้ภาพ หรือข้อมูลปลอมหลอกลวงให้โอนเงินเข้าบัญชี ซึ่งมีผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินเข้าระบบกว่า 10 ล้านบาท
รายสุดท้ายเป็นผลการกวาดล้างกลุ่มชาวต่างชาติที่ลักลอบอยู่ในราชอาณาจักรเกินกว่ากฎหมายกำหนด เป็นชาวไนจีเรีย 2 ราย ไม่แจ้งการเข้าพักซึ่งผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมืองอีก 1 ราย ส่วนที่เหลือเป็นการลักลอบค้าประเวณี รวมถึงเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นหญิงสาวชาวอูกันดาจำนวน 30 ราย โดยมี น.ส.เบลินดา นามูลี เป็นนายหน้าค้ามนุษย์ชาวอูกันดา เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยว่า ทางเจ้าหน้าที่มีการสนธิกำลังระดมกวาดล้างปัญหาชาวต่างชาติที่กระทำผิดกฎหมายอย่างจริงจัง จนมีผลการปฏิบัติในการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมของกลางได้เป็นจำนวนมาก โดยทั้งหมดจะเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีทางกฎหมาย ขณะที่ในส่วนของปัญหาการลักลอบการค้าประเวณีนั้น เบื้องต้น จะทำการเพิกถอนใบอนุญาต และวีซ่าของทั้งหมดก่อนผลักดันกลับประเทศบ้านเกิด อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้ต้องหาบางส่วนร้องว่าเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ ซึ่งจะได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบ และดำเนินการต่อไป
