แพร่ - แกนนำต่อต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น พร้อมรอง ผอ.รมน.แพร่ ปลัดจังหวัดฯ ออกโรงจวก “พวกก่อกวน” โผล่อ้างชื่อคนสะเอียบต้านแก่งเสือเต้นระหว่างประชุม ครม.สัญจรสุโขทัย ยันคนสะเอียบของแท้คุยกันแล้ว ชง “สะเอียบโมเดล” แทนชุมนุมประท้วง
วันนี้ (26 ธ.ค.) นายสมมิ่ง เหมืองร้อง แกนนำต่อต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่, พ.อ.ชินทัศน์ หมวกละมัย รอง ผอ.รมน.แพร่ ฝ่ายทหาร และนายนิกรณ์ ยะกระจาย ป้องกันจังหวัดแพร่ ได้หารือร่วมกัน พร้อมแถลงต่อสื่อมวลชนกรณีกลุ่มคนที่เข้าไปชูหนังสือยื่นคัดค้านสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นระหว่างการประชุม ครม.สัญจรสุโขทัย
นายสมมิ่งระบุว่า กลุ่มคนที่ไปเคลื่อนไหวไม่ใช่กลุ่มชาวบ้านที่เดือดร้อนแต่อย่างใด และไม่ใช่กลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน หรือประชาสังคมที่ขับเคลื่อนเรื่องต้านเขื่อนทั้งภาคเหนือตอนบน ภาคเหนือตอนล่าง
“ผู้ที่เข้าไปชูป้ายและทำหนังสือต่อต้านเขื่อนแก่งเสือเต้นระหว่างประชุม ครม.สัญจรดังกล่าว ชาวสะเอียบถือว่าคนเหล่านี้คือกลุ่มก่อกวน ทำให้สังคมเกิดความแตกแยก การกระทำดังกล่าวถือว่าไม่หวังดีต่อบ้านเมือง ขอให้ทางราชการพิจารณาเพื่อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งในการเอาผิดคนเหล่านี้ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กลุ่มขับเคลื่อนงานทั้งเอ็นจีโอ และเครือข่ายชาวบ้านประชาสังคมที่ร่วมกันทำงานพากันเสียชื่อหมด เพราะได้คุยกับ รมว.เกษตรและสหกรณ์ไว้แล้ว”
ขณะเดียวกัน กลุ่มประชาชนในอำเภอต่างๆ ของจังหวัดแพร่ต่างเห็นด้วยกับการขับเคลื่อนของรัฐบาลในการทำให้แผนของประชาชน คือ โครงการสะเอียบโมเดล เป็นรูปธรรมขึ้นมา
นายเกียรติ คำน้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ กล่าวว่า เห็นด้วยกับการที่ รมช.เกษตรฯ ลงพื้นที่สะเอียบเพื่อดูแผนการจัดการน้ำโดยชุมชน ที่เรียกว่า “สะเอียบโมเดล” โดยประเด็นนี้ชาวแพร่รอมานานในการตัดสินใจของทางราชการที่คิดแต่โครงการขนาดใหญ่แต่ได้รับประโยชน์น้อย การคิดของชาวบ้านอยู่กับความจริง มีข้อมูลชัดทำให้เกิดเป็นรูปธรรมได้
“ในการพัฒนารัฐไม่ควรมองเรื่องน้ำเพียงอย่างเดียว แต่ถ้าให้ชาวบ้านร่วมคิด ควรมองถึงทิศทางสร้างรายได้และพัฒนาสิ่งที่แพร่มีอยู่อย่างสมบูรณ์ให้เกิดมูลค่าเพิ่ม เช่น การพัฒนาจัดการป่าสมุนไพรให้อุดมสมบูรณ์และเป็นแหล่งสะสมพันธุ์พืช และขยายพันธุ์ รวมไปถึงการพัฒนาเป็นนวัตกรรม”
นายปัญจพล ประสิทธิ์โสภิณ รองประธานหอการค้าจังหวัดแพร่ กล่าวว่า นานมาแล้วที่เราผลักดันสร้างแหล่งน้ำ แต่ทางราชการก็ไม่สามารถดำเนินการได้ การที่คนในท้องถิ่นร่วมมือกับทางราชการภายใต้แนวคิดการบริหารจัดการร่วมกันได้ประโยชน์มากกว่าการสร้างเขื่อน รัฐควรมองเห็นและเร่งผลักดัน และควรผลักดันทั้งจังหวัด เพราะมีมูลค่าการพัฒนาไม่สูง ที่สำคัญจังหวัดแพร่จะได้พัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งมีน้ำเป็นปัจจัยสำคัญได้เสียที ถ้ายังรอช้าอยู่ก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว