ชัยภูมิ - แม่ค้าตลาดสดแก้งคร้อ ชัยภูมิ แห่แจ้งจับตัวแทนบริษัทไทยประกันชีวิตสุดแสบ หลอกเชิดเงินกว่า 3 ล้านหลังส่งเงินเบี้ยประกันผ่านตัวแทนบริษัทรายนี้ต่อเนื่องไม่เคยขาดมาตั้งแต่ปี 2554 เมื่อทวงถามขอใบเสร็จรับเงินกลับไม่มีให้ ความเลยแตกแห่ขึ้นโรงพักแจ้งความเอาผิดต่อเนื่อง พร้อมบุกสำนักงานสาขาฯ สอบถามขอความเป็นธรรม ด้านไทยประกันฯแจงให้ตัวแทนที่เกิดเหตุฉาวพ้นสภาพ การเป็นตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทฯ แล้วและหากตรวจสอบพบตัวแทนกระทำผิดจริงบริษัทยินดีรับผิดชอบ
วันนี้ (26 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีตัวแทนชาวบ้าน นำโดย นางนริสรา กรวยสวัสดิ์ อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 168 ม.7 บ้านศรีพัฒนา ต.ช่องสามหมอ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ และ นางเสรี ต่อสกุล อายุ 50 ปี ชาวบ้านเลขที่ 105 ม.1 ต.หนองไผ่ อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ พร้อมชาวบ้านกว่า 10 ราย พากันเดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.อ.สุพจน์ เตี้ยทอง รอง สว.สอบสวน สภ.แก้งคร้อ กรณีที่ถูก นางลัดดาวัลย์ ภาชนะ ตัวแทนขายประกันของบริษัทไทยประกันชีวิต สาขาแก้งคร้อ ได้เก็บเงินลูกค้าทำประกันไปแล้วไม่นำส่งให้บริษัทฯ เป็นจำนวนมาก เบื้องต้นรวมกว่า 3,000,000 บาท ทำให้กลุ่มชาวบ้านได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
พร้อมกันนี้ ทางตัวแทนชาวบ้านผู้เสียหายทั้งหมดได้พากันเดินทางไปยังสำนักงานบริษัทไทยประกันชีวิต สาขาแก้งคร้อ เพื่อสอบถามความคืบหน้ากรณีที่เกิดขึ้น
นางนริสราเล่าว่า ความเสียหายเบื้องต้นขณะนี้รวมกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งตนและผู้เสียหายทั้งหมดนั้นเป็นแม่ค้าตลาดสดใน อ.แก้งคร้อ ได้รู้จักกับ นางลัดดาวัลย์ ภาชนะ ตัวแทนบริษัทขายประกันดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นคนกว้างขวางในชุมชน ชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมากให้ความไว้วางใจทำประกันด้วยมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554
ในส่วนของตนได้ชักชวนครอบครัวทำประกันชีวิตด้วย รวม 5 กรมธรรม์ รวมเป็นเงินที่จ่ายไปแล้วกว่า 7 แสนบาท หลังจากนั้นได้ชวนบรรดาพ่อค้าแม่ค้าในตลาดมาร่วมทำประกันชีวิตกับนางลัดดาวัลย์กันอีกหลายสิบราย ช่วงแรกๆ นั้นปกติดี มีการเรียกเก็บจ่ายเบี้ยกันตามปกติโดยผ่านนางลัดดาวัลย์ แต่ต่อมาทุกครั้งที่จ่ายเงินไปไม่เคยออกใบเสร็จรับเงินให้ และเมื่อพากันทวงถามจะบ่ายเบี่ยงทุกครั้ง แต่ด้วยความที่นางลัดดาวัลย์เป็นคนพูดจาดีบริการลูกค้าดีเลยไม่ติดใจ
กระทั่งต่อมาปี 2558 ตนและผู้เสียหายอีกหลายรายได้รับหนังสือแจ้งจากสำนักงานใหญ่ว่าขาดการชำเบี้ยประกัน ซึ่งทุกคนตกใจเพราะไม่เคยขาดส่งเบี้ยประกันแม้แต่รายเดียว ผู้เสียหายทั้งหมดจึงได้ติดต่อไปยังนางลัดดาวัลย์ ภาชนะ เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องเงินเบี้ยประกันว่าพวกตนได้ชำระเงินให้ไปแล้วแต่ทำไมถึงมีหนังสือแจ้งเตือนจากสำนักงานใหญ่ว่าขาดชำระเบี้ยประกัน ซึ่งช่วงแรกๆ นางลัดดาวัลย์ได้บอกว่าจะเคลียร์ให้ทั้งหมดโดยมีการนัดไกล่เกลี่ยกันหลายครั้ง แต่ล่าสุดไม่สามารถติดต่อนางลัดดาวัลย์ได้อีกเลย เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมาเมื่อสอบถามไปที่สำนักงานสาขาที่นางลัดดาวัลย์สังกัดอยู่ ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่านางลัดดาวัลย์ได้ลาออกไปแล้ว
วันนี้จึงได้นัดรวมตัวกันเพื่อเดินทางมาที่สำนักงานสาขาแก้งคร้อเพื่อสอบถามถึงเรื่องราวดังกล่าวว่าทางบริษัทฯ จะให้ความเป็นธรรมช่วยเหลือหรือรับผิดชอบอย่างไรแก่ผู้เสียหายทั้งหมดในวันนี้ด้วย ซึ่งล่าสุดได้มี นางจรรยา ชาลีเครือ ผู้บริหารสำนักงานสาขาแก้งคร้อ ออกมาชี้แจงชาวบ้านว่าเรื่องดังกล่าวได้แจ้งไปยังสำนักงานใหญ่เพื่อดำเนินการแล้วแต่ขณะนี้ยังไม่ได้แจ้งกลับมา ซึ่งผลเป็นอย่างไรจะได้แจ้งให้ชาวบ้านผู้เสียหายทราบเป็นการด่วนต่อไป
ทางด้านตัวแทนชาวบ้านบอกว่า เวลานี้ยังไม่ได้กล่าวโทษบริษัทฯ แต่ต้องการเพียงให้ทุกคนที่ชำระเงินไปหรือกรมธรรม์ที่กำลังจะขาดความคุ้มครองเนื่องจากขาดชำระเบี้ยให้กลับมาคงสภาพสมบูรณ์ต่อไปก่อนระหว่างรอการตรวจสอบในครั้งนี้
ด้าน ร.ต.อ.สุพจน์ เตี้ยทอง รอง สว.สอบสวน สภ.แก้งคร้อ เจ้าของคดี กล่าวว่า หลังจากรับแจ้งความแล้วจะประสานไปยังบริษัทฯ และผู้ที่ถูกกล่าวหาให้มาพบพนักงานสอบสวนและผู้เสียหายว่าจะมีการชดใช้กันอย่างไร ซึ่งจะได้ออกหมายเรียกไปยังผู้ถูกกล่าวหาตามกระบวนการ หากไม่มาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะได้ขออนุมัติออกหมายจับต่อไป
ขณะที่ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ซึ่งถูกพาดพิงในกรณีดังกล่าว ได้มีการชี้แจ้งในเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ตามที่ท่านได้นำเสนอข่าวกรณีผู้เอาประกันของบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) แจ้งความดำเนินคดีเกี่ยวกับการชำระเบี้ยประกันผ่านตัวแทนประกันชีวิต คุณลัดดาวัลย์ ภาชนะ แต่ตัวแทนไม่นำเบี้ยประกันชำระเข้าบริษัทฯ ส่งผลให้กรมธรรม์ขาดผลบังคับ รายละเอียดดังความทราบแล้วนั้น
บริษัทฯ ใคร่ขอเรียนชี้แจงว่าทันทีที่ได้รับทราบข้อกล่าวหาดังกล่าว บริษัทฯ มิได้เพิกเฉยหรือนิ่งนอนใจแต่อย่างใด โดยมีคำสั่งให้คุณลัดดาวัลย์พ้นสภาพการเป็นตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทฯ ทันที เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขณะเดียวกันได้ประสานไปยังผู้เอาประกันและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอรายละเอียดข้อมูลหลักฐานประกอบการพิจารณา
อย่างไรก็ดี การชำระเบี้ยประกัน ผู้เอาประกันต้องมีใบเสร็จรับเงินเป็นหลักฐานการชำระเงิน กรณีที่ไม่มีใบเสร็จรับเงิน บริษัทฯ ขอให้ผู้เอาประกันแจ้งความดำเนินคดี ในฐานะผู้เสียหายโดยตรง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ หากบริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบหลักฐานแล้วพบว่า ตัวแทนกระทำความผิดจริง รวมถึงมีหลักฐานที่เป็นประจักษ์พยานชัดเจนว่า ผู้เอาประกันได้ชำระเบี้ยประกันผ่านตัวแทน บริษัทฯ พร้อมที่จะรับผิดชอบและให้ความช่วยเหลือตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง รวมถึงฟื้นฟูกรมธรรม์ที่ขาดผลบังคับต่อไป