ศูนย์ข่าวศรีราชา- รองนายกเมืองพัทยา ยืนยันเดินหน้ายึดคืนพื้นที่คลองปึกพลับ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเขตนาเกลือ เผยข้ออ้างชาวบ้านพักอาศัยมานาน ไม่สามารถอ้างสิทธิเพื่อขออยู่ต่อได้ ชี้ควรนึกถึงผลประโยชน์ของส่วนรวม
วันนี้ ( 23 ธ.ค.) นายวิเชียร พงษ์พานิชย์ รองนายกเมืองพัทยา ได้ออกมาเปิดเผยถึงความคืบหน้าการดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำคลองสาธารณะ ที่สร้างปัญหามลพิษและน้ำท่วมขังมาช้านานว่า ในส่วน คลองปึกพลับ ซึ่ง เป็นพื้นที่ๆ มีประชาชนบุกรุก ปลูกสิ่งก่อสร้างอาคารบ้านเรือนมาเป็นเวลานาน ทำให้เมื่อมีฝนตกหนักในพื้นที่เมืองพัทยา คลองปึกพลับ จะเป็นพื้นที่แรกที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง อีกทั้งพื้นที่ดังกล่าวยังเป็นพื้นต่ำ และที่ผ่านมา เมืองพัทยา ได้สั่งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นอาคารบ้านเรือนไปบางส่วน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่สามารถรื้อถอนได้
ทั้งนี้เมืองพัทยา ได้มีการลงพื้นที่เจรจากับชาวบ้านที่บุกรุกคลองปึกพลับ เพื่อให้ออกไปจากพื้นที่ แต่ชาวบ้านกลับอ้างเรื่องการพักอาศัยมาเป็นระยะเวลานาน ซึ่งแม้ชาวบ้านจะมีการอ้างเรื่องการพักอาศัย แต่ก็ไม่สามารถที่จะอ้างสิทธิเพื่อที่จะอยู่ต่อได้ จึงขอให้นึกถึงผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่เป็นหลัก
เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นคลองสาธารณะ และหากสามารถยึดคืนพื้นที่คลองสาธารณะปึกพลับคืนได้ก็จะให้ ประชาชน ได้เช่าซื้อโครงการการเคหะแห่งชาติ ซึ่งเป็นที่พักอาศัยที่มีราคาไม่สูงมากนัก โดยแนวทางดังกล่าวมีประชาชนที่บุกคลองสาธารณะให้ความสนใจถึง 24 ราย แต่ก็ต้องชะงักไป หลังจากที่มีกฎหมายของกรมเจ้าท่า เกี่ยวกับการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในน่านน้ำไทย ซึ่งทำให้เกิดความเดือดร้อนกันทั้งประเทศ
ทำให้ คสช.มีคำสั่งบรรเทาออกมาให้คนที่บุกรุกมาขึ้นที่ทะเบียนต่อพนักงานกรมเจ้าท่าภายใน 30 วัน และอีก 180 วัน ให้ผู้กระทำความผิดนำหลักฐานที่คิดว่าจะมีสิทธิอยู่อาศัยต่อมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่กรมเจ้าท่า
“ขอยืนยันว่ากฎหมายของกรมเจ้าที่ที่ออกมานั้น ไม่สามารถพิจารณาให้ประชาชนที่บุกรุกในคลองปึกพลับอยู่ต่อได้อย่างแน่นนอน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นคลองสาธารณะมีการบุกรุกพื้นที่ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำท่วมเวลาฝนตกน้ำไม่สามารถไหลได้อย่างปกติ ด้วยเหตุดังกล่าวไม่สามารถทำให้กรมเจ้าท่าอนุญาตให้ประชาชนอยู่ต่อในพื้นที่คอลงปึกพลับได้อย่างแน่นอน” นายวิเชียร กล่าว