พิจิตร - ชาวนาเมืองชาละวัน รวมตัวร้องตรงรองนายกฯ - รมว.ยุติธรรม ครวญถูกเซลล์บริษัทปุ๋ยดังหลอกให้รับปุ๋ยฟรี ก่อนส่งใบแจ้งหนี้ตามหลังรายละกว่าแสนบาท แถมตามฟ้องต้องเดินขึ้นโรงขึ้นศาลกันระนาว
พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะ ได้เดินทางมาตรวจราชการพบปะชาวชาวพิจิตร และกลุ่มเกษตรกรที่ อบต.กำแพงดิน อ.สามง่าม โดยมีนางณิทฐา แสวงทอง รองผู้ว่าฯพิจิตร พร้อมด้วย ชาวบ้านและผู้นำชุมชนเกือบ 1,000 คน มาให้การต้อนรับ
โอกาสนี้ชาวนา ต.สามง่าม ต.รังนก ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม รวมกว่า 200 คน ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก พล.อ.อ.ประจิน หลังประสบปัญหาทางกฎหมาย ถูกฟ้องร้อง
นางมาลี กลั่นสุข อายุ 55 ปี ชาวนา ต.กำแพงดิน ซึ่งทำนา 10 ไร่ เล่าว่า เมื่อประมาณปลายปี 2557 ได้มีผู้อ้างตัวว่าเป็นเซลล์แมนของบริษัทปุ๋ย TPI มาเรียกประชุมชาวบ้านแล้วบอกว่า “จะมีปุ๋ยฟรีมาแจกให้ทดลองใช้ ใครอยากได้ให้เอาโฉนดที่ดิน - ทะเบียนบ้าน - บัตรประชาชน มาลงชื่อ” ซึ่งชาวนากลุ่มนี้เห็นว่า ได้ของฟรี จึงแห่กันมาลงชื่อโดยไม่ได้อ่านเอกสาร
จากนั้นคนที่อ้างตัวเป็นพนักงานบริษัทปุ๋ย TPI ก็นำปุ๋ยจำนวนมากใส่รถเทรลเลอร์มาให้ชาวบ้าน แต่ผ่านไป 2 - 3 เดือน กลับมีหนังสือแจ้งมายังชาวนา ว่า ปุ๋ยที่ได้รับไปนั้น มีราคาคิดเป็นเงินรายละ 100,000 - 150,000 บาท ชาวบ้านเห็นแล้วตกใจ เพราะนอกจากจะแพงแล้ว ยังเป็นปุ๋ยน้ำ ไม่ใช่ปุ๋ยเม็ดอย่างที่เคยใช้ จึงบอกยกเลิกแล้วให้มาเอาปุ๋ยคืน
ต่อมาชาวนากลับถูกฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาล และเข้าสู่ขบวนการไกล่เกลี่ย ซึ่งก็มีชาวนาจำนวนมากที่กลัวติดคุกต่างก็ไปกู้หนี้ยืมสินจ่ายเงินให้บริษัทปุ๋ย ที่ตกลงไกล่เกลี่ยให้จ่าย 20% แต่ก็มีชาวนาอยู่กลุ่มหนึ่งประมาณ 46 ราย ที่ไม่ได้ไปศาล เพื่อเข้าสู่ระบบไกล่เกลี่ย เนื่องจากมีเซลล์แมนของบริษัทปุ๋ย มาบอกว่า คืนสินค้าแล้วก็จบกัน
แต่แล้วชาวนา 46 รายนี้ กลับถูกศาลพิพากษาว่า ให้ชดใช้ แต่พวกตนฐานะยากจน ก็ไม่มีเงินจะจ่าย ถึงแม้จะให้ชดใช้เพียง 20%ก็ตาม จึงไปร้องขอความเป็นธรรมจากสภาทนายความจังหวัดพิจิตร เพื่อขอให้รื้อฟื้นคดีเข้าสู่ขบวนการของศาลยุติธรรมให้พิจารณาคดีใหม่
ด้าน พล.อ.อ.ประจิน บอกว่า จะเร่งแก้ไขความเดือดร้อนของชาวนากลุ่มนี้ รวมถึงจะต้องดูว่าฝ่ายโจทก์ที่เอาเอกสารมาให้ชาวบ้านลงนาม มีการนำไปเติมข้อความหรือแก้ไขเอกสารหรือไม่ ซึ่งถ้าพบการกระทำดังกล่าว ก็จะต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้รับปากว่าจะดำเนินการแก้ไขเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเร่งด่วนต่อไป