นครปฐม - นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทยาวาส ประชุมรับคำสั่งนายอำเภอนครชัยศรี ประสานบริษัทประกัน และ น้ำมันพืชองุ่น สำรวจความเสียหายสะพานข้ามท่าจีน พร้อมจัดรถเรือ รับส่งประชาชน นักเรียน ข้ามแม่น้ำ คาดอาจะยืดเยื้อถึง 8 เดือน
วันนี้( 21 ธ.ค.) ความคืบหน้าในการระดมการช่วยเหลือประชาชนและความเสียหายที่ สะพานหลวงปู่จ้อย หมู่ 4 ตำบลไทยาวาส อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม หลังจากถูกเรือโป๊ะ ขนถั่วเหลืองส่ง โรงงานน้ำมันพืชไทยถล่มจมลงในแม่น้ำท่าจีน เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ซึ่งมีหลายหน่วยงานได้ระดมประสานการให้การช่วยเหลือและเร่งกั้นเป็นพื้นที่อันตรายห้ามเข้าไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ได้มีหน่วยงานจากกรมเจ้าท่า นายอำเภอนครชัยศรี ผู้บริหารอบต.ไทยาวาสและอบต.ขุนแก้ว รวมถึงเจ้าหน้าที่และทีมช่างของบริษัทน้ำมันพืชไทย (น้ำมันพืชองุ่น) ได้ประชุมหารือและหาแนวทางในการช่วยเหลือประชาชน และเร่งกู้ซากปูนของสะพานและซ่อมแซมในส่วนที่เสียหายโดยเร็ว ท่ามกลางการสอบถามและการให้ความสนใจของชาวบ้านจำนวนมากที่ต้องการทราบข่าวเพื่อการปรับเปลี่ยนการสัญจร
โดยนายประสาท รับพรพระ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลไทยาวาส กล่าวว่า สำหรับการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น นั้นได้ประสานงานกับหลายหน่วยงาน โดยเบื้องต้นได้มีการนำนักประดาน้ำลงเรือสำรวจความเสียหาย แต่ยังไม่ได้บทสรุปออกมา ส่วนที่หายไป นั้นจมอยู่ใต้ผิวน้ำลึกประมาณ 5 เมตร ส่วนเศษซาก ตัวพื้นสะพานขจมอยู่ลึก 7 เมตร โดยต่อจากนี้จะมีการประสานให้มีการสำรวจความเสียหายส่วนตอม่อที่เหลือ ว่าจะต้องสร้างใหม่ทั้งหมดหรือซ่อมแซมส่วนที่เสียหายโดยมีวิศกรมาตรวจสอบอีกครั้ง
ส่วนประชาชนที่จะสัญจรไปมา นั้นเบื้องต้น ทางอบต.ไทยาวาส ได้มีการจัดเรือท้องแบนให้ 1 ลำ และจากบริษัทน้ำมันพืชไทย 1 ลำเพื่อมารับส่งประชาชนและนักเรียน ที่จะต้องข้ามแม่น้ำไปมาระหว่างอำเภอสามพราน เวลา 06.00-20.00 น. และมีการจัดรถสองแถว 2 คัน คอยบริการวิ่งอ้อมเส้นทางประมาณ 10 กิโลเมตร ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ทุกวัน ซึ่งจะทำจนกว่าสะพานจะแล้วเสร็จ คาดว่าไม่น้อยกว่า 8 เดือน ซึ่งคืนแรกจะมีการติดป้ายกำชับห้ามขึ้นลง และจัดไฟส่องสว่างบนสะพานเพื่อให้ส่องไปยังแม่น้ำท่าจีน เพื่อให้เรือที่จะสัญจรไปมานั้นไม่เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก
ทั้งนี้ในส่วนของการก่อสร้างสะพาน ทางบริษัทประกันทะเลไทย ได้ออกมาแจ้งว่าจะดูแลทั้งหมด หากมีส่วนเกินจากค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม บริษัทน้ำมันพืชไทยจะมีการจ่ายที่เหลือให้ทั้งหมด ซึ่งขอให้ชาวบ้านสบายใจได้ แต่อาจจะต้องมีการปรับแผนในการเดินทางใหม่
ด้าน นายสาธิต ศรีจงใจ ชาวบ้านที่อาศัยใกล้ริมแม่น้ำท่าจีน บอกว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังนอนหลัง มีเสียงตูมดังสนั่นเหมือนฟ้าผ่า ก็ตกใจเพราะหมดฝนไปแล้วกระทั่งมีคนแจ้งว่าสพพานถล่ม จึงออกมาดูและช่วยเข้ามาช่วยเหลือนำเรือของอบต.ไทยาวาสมาช่วยตั้งแต่เช้า
นอกจากนี้ ในช่วงเกิดเหตุ นั้นพบว่ามี รถจักรยาน 1 คัน อยู่บนสะพานและรถกระบะที่กำลังขึ้นกลางสะพาน เมื่อทราบว่ามีการชนครั้งแรก ทั้งคู่ได้เร่งถอยหลังและวิ่งหนี ก่อนสะพานจะถล่มเพียงเสี้ยวนาที ทำให้รอดตายอย่างหวุดหวิด ไม่ได้มีรถจมหายไปหลายคันจากข่าวลือตั้งแต่ช่วงเช้าแต่อย่างใด