ราชบุรี - อ.สวนผึ้ง หนาวจัด อุณหภูมิ ต่ำถึง 8 องศา ซึ่งด้านชาวบ้านยังขาดแคลนผ้าห่มและเสื้อกันหนาว ส่งผลให้คนแก่หนาวตายแล้ว 1 ราย
วันนี้( 21 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 205 หมู่ 6 หมู่บ้านหนองตาดั้ง หมู่ 6 ต.ตะนาวศรี อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ซึ่งอยู่ติดกับชายแดนไทย-เมียนมาร์ มีคนแก่ตายเนื่องจากทนกับสภาพอากาศที่หนาวเหน็บไม่ไหว จึงเดินทางไปตรวจสอบพบนายสมบัติ วลิตทิกรกุล อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าไปที่บ้านของผู้เสียชีวิต พบนางนอนุ้ย ทอง อายุ 76 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว นอนเสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน โดยญาติๆได้นำผ้าห่มมาคลุมร่างไว้ ด้านนางสาวแดง ทอง อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้ตายก็บอกว่าเมื่อช่วงเช้าผู้ตายยังลุกขึ้นมานั่งพูดคุยได้และบ่นว่าหนาว จากนั้นก็ได้นอนห่มผ้าต่อ และมารู้ว่าตายแล้วตอนที่มีเจ้าหน้าที่ทหารพรานนำผ้าห่มมาให้
ส่วน จ.ส.อ.ปกรณ์ แสงโภชน์ นายสิบพยาบาลประจำกองร้อยกรมทหารพราน 14 เผยว่าผู้ตายมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว ซึ่งที่นี่อากาศจะหนาวมาก กลางคืนประมาณ 8 องศา ส่วนช่วงเช้าประมาณ 13 องศา อาจจะทำให้ผู้ป่วยช็อคและเสียชีวิตได้ เพราะอากาศที่หนาวเย็น ประกอบกับนอนบนพื้นปูน ซึ่งมีความเย็นอยู่แล้ว ตอนที่เข้ามาดูก็พบว่ามีแค่ผ้าห่มบาง 2 ผืน ซึ่งทางกองทัพบกก็พยายามดูแล เมื่อเช้าก็นำผ้าห่มมาแจกให้ ก่อนที่ผู้ป่วยจะเสียชีวิต ซึ่งเราก็พยายามดูแลแต่ก็ยังไม่ทั่วถึง ยังขาดแคลนผ้าห่มอยู่มาก เพราะมีชาวบ้านหลายหลังคาเรือน
สำหรับหมู่บ้านหนองตาดั้งเป็นอีกหมู่บ้านหนึ่ง ในหลายหมู่บ้านที่อยู่ติดกับชายแดนไทย-เมียนมาร์ และมีเทือกเขาสูง ทำให้สภาพอากาศนั้นจะเย็นจัดในช่วงค่ำ ชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายกระเหรี่ยง ทุกหลังคาเรือนต้องออกมาก่อกองไฟผิงเพื่อคลายหนาว
เนื่องจากผ้าห่มที่มีอยู่นั้นไม่เพียงพอเพราะที่ผ่านมาไม่เคยหนาวขนาดนี้จึงไม่ได้เตรียมเสื้อและผ้าห่มกันหนาวไว้ ประกอบกับบ้านเรือนที่ปลูกนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านที่ทำจากไม้และเป็นห้องโล่ง ทำให้มีลมพัดผ่านเข้าไปได้ ชาวบ้านบางคนบอกว่ากลางคืนจะนอนเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมง ก็จะต้องออกมาผิงไฟเพราะทนอากาศหนาวไม่ไหวและเมื่อตัวอุ่นก็จะกลับไปนอนต่อเป็นอย่างนี้มาหลายวันแล้ว จึงอยากวอนขอผ้าห่มจากผู้ใจบุญเพื่อช่วยคลายหนาวในครั้งนี้ด้วย
