บุรีรัมย์- ลุงชาวนาวัย 54 ปี ชาวบุรีรัมย์ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้เงิน 12 ล้าน ยืนยันบริจาคเงินให้ รพ. 1 ล้าน และโรงพักอีก 1 แสน เพื่อตอบแทนที่ดูแลรักษาภรรยาป่วยโรคไตเป็นอย่างดี กำหนดทำมอบ 24 ธ.ค.นี้ ลูกเผยไม่ใช่อวดรวย แต่เป็นความตั้งใจอยากทำบุญเพราะโชคดีถูกลอตเตอรี่เชื่อมาจากผลบุญที่ทำ จึงได้แบ่งปันให้สังคมบ้าง
จากกรณีที่ชาวนาบ้านโคกเพชร ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 หมายเลข 955596 งวดประจำวันที่ 16 ธ.ค.2560 ที่ผ่านมา จำนวน 2 ใบ เป็นเงินรางวัล 12 ล้านบาท และกลับเป็นประเด็นต่อมา หลังจากมีการประกาศจะบริจาคเงินที่ถูกรางวัลให้แก่ทางโรงพยาบาลบุรีรัมย์ จำนวน 1 ล้านบาท และสถานีตำรวจอีก 1 แสนบาท จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ต่อมา ว่า “จริงหรือไม่” นั้น
ทราบข่าวต่อมาว่า สองสามีภรรยาโชคดีเป็น 2 ชั้น เพราะก่อนหน้านี้ นายสมบูรณ์ คงดี อายุ 54 ปี นางละเอียง คงดี อายุ 52 ปี สองสามีภรรยากำลังเอาที่นาผืนสุดท้าย จำนวน 8 ไร่ ไปขายเพื่อมาทำการรักษานางละเอียง ภรรยาที่ป่วยเป็นโรคไตวายในระยะที่ 5 ทำให้ไม่ต้องขายนา และมีเงินรักษาภรรยาให้ดีที่สุด
โดยระหว่างที่ นายสมบูรณ์ ผู้โชคดี หรือว่าที่เศรษฐีคนใหม่ ได้นำสลากกินแบ่งรัฐบาลชุดที่ถูกรางวัล ไปลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ ก็ได้ประกาศผ่านผู้สื่อข่าวว่า เงินรางวัลที่ได้มา จำนวน 12 ล้านบาท จะบริจาคให้โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ ที่รักษาภรรยาของตนเองเป็นเงิน 1 ล้านบาท และมอบให้สถานีตำรวจอีก 100,000 บาท
ต่อมา โลกออนไลน์ต่างออกมาพูดว่า อาจจะเป็นไปไม่ได้ที่จะบริจาคให้โรงพยาบาลมากถึง 1 ล้านบาท เพราะที่ผ่านมา เคยมีคนถูกมากกว่านี้ก็ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน บางรายวิเคราะห์ว่า อาจเป็นเพราะความดีใจในครั้งแรกจึงพูดออกมาโดยไม่ได้ตั้งสติ
ล่าสุด ได้รับคำยืนยันจาก น.ส.พรสุดา คงดี อายุ 20 ปี ลูกสาวนายสมบูรณ์ บอกว่า เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ทางครอบครัวได้เดินทางเข้าพบผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เรียบร้อยแล้ว เพื่อยืนยันการบริจาคเงิน จำนวน 1 ล้านบาท โดยจะโอนเงินเข้าบัญชีของโรงพยาบาลภายในวันอาทิตย์นี้ และจะมีการทำพิธีมอบอีกครั้งในวันที่ 24 ธ.ค.นี้ โดยจะเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ มาเป็นพยานในการรับมอบด้วย
น.ส.พรสุดา ยังบอกด้วยว่า การบริจาคเงิน จำนวน 1 ล้านบาท ครอบครัวไม่ได้ตื่นเต้นอะไร และไม่ได้ฝืนความรู้สึกแต่อย่างใด เพราะเป็นความตั้งใจของผู้เป็นพ่อที่เคยพูดไว้ตั้งแต่ก่อนจะถูกรางวัลแล้วว่า หากถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ก็จะมอบเงินให้โรงพยาบาล 1 ล้านบาท เพราะอยากทดแทนบุญคุณให้ทางโรงพยาบาลที่ดูแล และรักษาภรรยาที่ป่วยเป็นโรคไตเป็นอย่างดี
ส่วนที่จะบริจาคให้สถานีตำรวจ ครอบครัวได้ตกลงกันแล้วว่า จะมอบให้สถานีตำรวจภูธรเมือง บุรีรัมย์ จำนวน 20,000 บาท ส่วนอีกเหลือ 80,000 บาท จะบริจาคให้แก่สถานีตำรวจภูธรพลับพลาชัย และโรงพยาบาลพลับพลาชัย ซึ่งเป็นบ้านเกิด ทั้งหมดไม่ใช่เป็นการอวดรวย แต่เป็นความตั้งใจ และอยากทำบุญเพราะที่โชคดีถูกลอตเตอรี่เชื่อมาจากผลบุญที่ทำ จึงได้แบ่งปันให้แก่สังคมบ้าง