xs
xsm
sm
md
lg

นักรบแห่งราชนาวี หวนรำลึก 137 ปี แห่งการประสูติเสด็จเตี่ย องค์พระบิดาทหารเรือไทย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา-นักรบแห่งราชนาวี จัดพิธีบวงสรวง ถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ เพื่อหวนรำลึก 137 ปี แห่งการประสูติเสด็จเตี่ย องค์พระบิดาทหารเรือไทย

วันนี้( 19 ธ.ค.) พลเรือโท สุกิตติ เสงี่ยมพงษ์ ผู้บัญชาการ ฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นประธานประกอบพิธีบวงสรวง ถวายสักการะพระอนุสาวรีย์ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย หรือเสด็จเตี่ย เนื่องในวันคล้ายวันประสูติ ครบ 137 ปี ณ สวนกรมหลวงชุมพร (หนองตะเคียน) อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยมี นายชายชาญ เอี่ยมเจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วมในพิธี พร้อมร่วมกันขับร้องบทเพลง ดาบของชาติ เดินหน้า และดอกประดู่ เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์

ทั้งนี้ ทุกวันที่ 19 ธันวาคมของทุกปี กองทัพเรือ ถือเป็นวันคล้ายวันประสูติ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (เสด็จเตี่ย) หรือองค์บิดาทหารเรือไทย และที่เหล่าทหารเรือต่างทราบกันดีในพระนาม “อาภากร” ผู้เป็นที่เทิดทูนยิ่งของเหล่าทหารเรือ และประชาชนโดยทั่วไป ดังจะเห็นได้จากการถวายพระนามท่านว่า “เสด็จเตี่ย” นับได้ว่าเป็นเจ้านายที่มีบุคคลให้ความเคารพสักการะเป็นจำนวนมาก เรียกได้ว่ามีจำนวนพระอนุสาวรีย์ และศาลพระรูป มากที่สุดพระองค์หนึ่งของไทย โดยในปัจจุบันมีมากกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ

พระองค์ทรงมีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 28 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์ที่ 1 ในเจ้าจอมมารดาโหมด ประสูติเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2423 ในพระบรมมหาราชวัง เสด็จในกรมฯ เป็นเจ้านายพระองค์แรกที่สำเร็จการศึกษาวิชาการทหารเรือจากประเทศอังกฤษ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริว่า กิจการทหารเรือไทย เท่าที่เป็นอยู่ในขณะนั้นต้องอาศัยชาวต่างชาติเป็นผู้บัญชาการเรือ และป้อมอยู่เป็นอันมาก จึงไม่สู้จะมีความมั่นคงเท่าใดนัก

โดยภายหลังจากที่เสด็จในกรมฯ ทรงสำเร็จการศึกษา และเข้ารับราชการทหารเรือแล้ว พระองค์ทรงเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นความสำคัญ และโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชวังเดิม ให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ พระองค์ได้แก้ไขปรับปรุงระเบียบการในโรงเรียนนายเรือให้ทันสมัย เพื่อให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือ เป็นนายเรือที่มีความรู้ ความสามารถ เทียบได้กับนายทหารเรือต่างประเทศ

จากการที่พระองค์ทรงเป็นนักยุทธศาสตร์ที่เล็งเห็นการณ์ไกล พระองค์ได้ทูลเกล้าขอพระราชทานที่ดินบริเวณอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานที่ดินที่สัตหีบให้แก่กองทัพเรือ เพื่อจัดตั้งเป็นฐานทัพเรือ เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ศ.2465

นอกจากพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ดังที่กล่าวมาแล้ว พระองค์ยังทรงมีพระปรีชาสามารถ และมีคุณูปการยิ่งแก่กองทัพเรือ เช่น ทรงเป็นผู้บังคับการเรือนำเรือหลวงพระร่วง จากประเทศอังกฤษ เข้ามายังกรุงเทพมหานคร นับเป็นครั้งแรกที่นายทหารเรือไทยเดินเรือได้ไกลข้ามทวีป ทรงจัดตั้งกองการบินทหารเรือ ทรงเปลี่ยนสีเรือรบของทหารเรือจากสีขาว เป็นสีหมอกให้เหมือนกับเรือรบต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความกลมกลืนกับลักษณะของสีน้ำทะเล และภูมิประเทศ ซึ่งกองทัพเรือได้นำสีดังกล่าวมาใช้เป็นสีเรือทุกลำของกองทัพเรือตราบจนปัจจุบัน

กระทั่ง พระองค์ได้กราบบังคมทูลออกจากราชการเพื่อพักผ่อนรักษาพระองค์ เมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2466 เนื่องจากพระองค์ทรงมีสุขภาพไม่สมบูรณ์ และประชวรพระโรคภายในอยู่ด้วย โดยทรงประทับอยู่ด้านใต้ปากน้ำ เมืองชุมพร ขณะที่พระองค์ประทับอยู่นี้ก็เกิดพระโรคหวัดใหญ่ เนื่องจากถูกฝน ทรงประชวรอยู่เพียง 3 วัน ก็สิ้นพระชนม์ที่ตำบลหาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร ในวันที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ.2466 สิริพระชนมายุ ได้ 44 พรรษา



กำลังโหลดความคิดเห็น