ศูนย์ข่าวขอนแก่น - “ซีเคแอล” โอ่ขยายฐานผลิตไป สปป.ลาว บรรลุเป้าหมาย เล็งเพิ่มกำลังผลิตรองเท้าเป็น 15,000 คู่ต่อสัปดาห์ เริ่ม เม.ย. 2561 นี้ โปรยยาหอมฝีมือแรงงาน สปป.ลาว ได้มาตรฐานระดับโลก หลังผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับส่งออกไปทั่วโลก
เมื่อเร็วๆ นี้ ที่ บริษัท ซีเคแอล จำกัด นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว นางคำจัน พรหมแสงสะหวัน รองประธานศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ พร้อมด้วย นายแก้วเจริญ เซี่ยยิ่งยาง อธิบดีกรมโฆษณา - อบรม, นายคำหล้า รอสอนสี อดีต รมช.โยธาธิการและขนส่ง และ รองประธาน กลุ่มบริษัท พงสะวัน กรุ๊ป และนายเข็มชาติ สมใจวงษ์ ประธานหอการค้า จ.ขอนแก่น ร่วมเยี่ยมชมการดำเนินงานผลิตภัณฑ์และมาตรฐานการผลิตรองเท้า ดอกเตอร์มาร์ติน Dr.Martens ที่ผลิตจากฝีมือแรงงานชาว สปป.ลาว ทั้งระบบ สามารถส่งจำหน่ายสู่ทุกภูมิภาคทั่วโลก
นายสุเมธ กองพัฒนากูล ประธาน กรรมการบริหาร กลุ่มซีเค กรุ๊ป กล่าวว่า การดำเนินงานของ ซีเคแอล ซึ่งได้รับอนุญาตจากรัฐบาลแห่ง สปป.ลาว ตามนโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนให้นักธุกิจต่างประเทศเข้ามาลงทุนใน สปป.ลาว เพื่อสร้างงานและสร้างรายได้ รวมทั้งร่วมกันพัฒนาเศรษฐกิจใน สปป.ลาว ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับอนุญาตดำเนินธุรกิจในปี 2555 และสามารถดำเนินการผลิตรองเท้าได้ในอีก 3 ปีต่อมา
ปัจจุบันสามารถผลิตรองเท้ายี่ห้อดังระดับโลกได้ที่ สปป.ลาว แล้วทั้งระบบ หรือสามารถผลิตได้ทั้งคู่ภายใต้การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์สินค้าจากเจ้าของแบรนด์ แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานฝีมือแรงงานชาว สปป.ลาว เป็นที่ยอมรับ และได้มาตรฐานชั้นนำระดับโลก เพราะรองเท้าทุกคู่ที่ผลิตและส่งจำหน่ายไปในต่างประเทศนั้น มีการพิมพ์ข้อความ “Made in LAO” ทั้งหมด
สำหรับการลงทุนของซีเคแอล ที่ สปป.ลาว ปัจจุบันมีโรงงานผลิตทั้งหมด 2 แห่ง ที่ บ้านหัวขัว และที่บ้านดงคำช้าง นครหลวงเวียงจันทน์ ใช้แรงงานชาว สปป.ลาว ผลิตทั้งหมด 100% โดยมีแรงงานทำงานทั้งหมดรวม 800 คน สามารถผลิตรองเท้าได้อยู่ที่อัตรากำลังสูงสุดที่ 8,000 - 10,000 คู่ต่อสัปดาห์ และในปี 2561 จะเพิ่มกำลังการผลิตตามยอดสั่งซื้อที่ประมาณ 12,000 - 15,000 คู่ต่อสัปดาห์ คาดว่าจะสามารถเริ่มสายการผลิตได้ในเดือน เม.ย.
นายสุเมธ กล่าวต่ออีกว่า จากการเพิ่มกำลังการผลิตดังกล่าวทำให้ความต้องการด้านแรงานชาว สปป.ลาว ต้องเพิ่มขึ้น มั่นใจว่า จะเพิ่มการจ้างงานอีกประมาณ 200 คน เท่ากับว่า ในปี 2561 ซีเคแอล จะมีแรงงานชาว สปป.ลาว ที่ปฏิบัติงานร่วมกับบริษทไม่น้อยกว่า 1,000 คน
อย่างไรก็ตาม การที่คณะกรรมการศูนย์กลางแนวลาวสร้างชาติ ได้มาเยี่ยมชมการดำเนินกิจการและการพบปะกับแรงงานชาว สปป.ลาว ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการดำเนินกิจการที่สนองต่อนโยบาย สปป.ลาว ในการสร้างานและสร้างรายได้กับประชาชนชาว สปป.ลาว ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน รวมทั้งการสนองต่อนโยบายของ สปป.ลาว ร่วมกันแก้ปัญหาความทุกข์ยากและความยากจน และร่วมกันนำพา สปป.ลาว ประกาศหลุดพ้นจากประเทศด้อยพัฒนาในปี 2563