นครสวรรค์ - ชาวบ้านหัวแด่น ชุมชนเก่าแก่ริมน้ำเจ้าพระยา ที่อยู่กันมากว่า 130 ปี ผวาบ้านพังร่วงลงซ้ำรอยร้านอาหารดังพยุหะคีรี พากันย้ายหนีแล้วกว่า 20 หลังคา แต่บางส่วนไม่รู้ย้ายไปไหน ต้องอยู่แบบจำใจ คุณยายวัย 67 บอก “กลัวจริง บางทีรู้สึกเหมือนบ้านสั่น”
หลังอาคารร้านอาหารโต้รุ่ง ติดแม่น้ำเจ้าพระยา เลขที่ 271 หมู่ 4 ต.พยุหะคีรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ หรือชุมชนบ้านหัวแด่น ชุมชนเก่าแก่ของพยุหะคีรี ที่อยู่กันมาตั้งแต่ปี 2430 พังถล่มลงแม่น้ำเมื่อ 22.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ นายเฉี่ยว วรพันธุ์ตระกูล อายุ 59 ปี น้องชาย นางสาวปรียานุช แซ่ลิ้ม เจ้าของร้านอาหารฯ หนีไม่ทันถูกอาคารทับจมน้ำเสียชีวิตคาที่นั้น
ล่าสุด พบว่า ชาวบ้านชุมชนหัวแด่น ต่างหวาดกลัว โดยเฉพาะคนที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ติดกับริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ได้อพยพโยกย้าย - ขนย้ายข้าวของไปอยู่ที่อื่นแล้ว 24 หลังคา แต่ยังมีบางส่วนที่จำใจอยู่ เพราะไม่รู้จะย้ายไปที่ไหน
เจ๊ม่อเคี้ยว อายุ 67 ปี เจ้าของร้านขายเครื่องสังฆภัณฑ์ เจ้าของบ้านเลขที่ 272 หมู่ 4 ต.พยุหะคีรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ บ้านสองชั้นตรงข้ามกับบ้านที่พังถล่มลงน้ำ กล่าวทั้งน้ำตาว่า อยากจะย้าย แต่ไม่มีที่ไป เมื่อมองไปทางแม่น้ำก็ใจหาย และหวาดกลัว ยอมรับว่า กลัวจริง เพราะตนเองต้องนอนชั้นล่าง บางวันรู้สึกเหมือนบ้านสั่นสะเทือน หรือเป็นเพราะเราหวาดกลัวไปเองก็ไม่รู้
ด้าน นายวีระ บำรุงศรี นายกเทศมนตรีตำบลพยุหะ อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ กล่าวว่า หลังจากที่ร้านอาหารโต้รุ่งพังลงแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้มีผู้เสียชีวิต ก็ได้เยียวยาช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ทางแขวงการทางนครสวรรค์ เขตพยุหะคีรี กรมทางหลวง ก็มาปิดกั้นตรงที่เกิดเหตุ และได้นำแท่งแบริเออร์สีส้มจำนวน 30 แท่ง กั้นแนวตลิ่ง และตามบ้านห้องแถวที่สุ่มเสี่ยง
และได้ประสานทีมงานมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้ช่วยลงงมค้นหาสิ่งของมีค่า ของ นางสาวปรียานุช แซ่ลิ้ม เจ้าของร้านอาหาร และบ้านที่อยู่ติดกัน ซึ่งจมใต้ซากอาคาร พบทั้งใบโฉนดที่ดิน เอกสารต่างๆ ที่อยู่ในกล่อง ธนบัตรกว่า 2 หมื่นบาท, พระพุทธรูป 2 องค์ หนึ่งในนั้นคือ หลวงพ่อเดิม หน้าตัก 9 นิ้ว 1 องค์ และ ตู้แอร์ พัดลม ฯลฯ
“เมื่อทีมค้นหาสิ่งของสิ้นสุด ก็จะนำทรายมาวางแนวตลิ่งยาวประมาณร้อยเมตร แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงแนวทาง ต้องปรึกษาหลายๆ ฝ่ายก่อน”
