ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - คืบหน้ากรณีนักศึกษาสาวถูกผู้ชายป่วยทางจิตใช้มีดคัตเตอร์กรีดจนเป็นแผลเหวอะ ล่าสุดตำรวจ สภ.สันกำแพงเชิญคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเจรจา โดยฝ่ายผู้เสียหายเรียกร้องเงิน 8 หมื่นบาท แต่ฝ่ายแม่ผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมรับ ทำให้ยังตกลงกันไม่ได้และต้องนัดกันอีกครั้ง ขณะที่ผู้กำกับฯ ยืนยันดำเนินคดีให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ความคืบหน้ากรณีนักศึกษาสาวถูกผู้ชายใช้มีดคัตเตอร์กรีดจนเป็นแผลเหวอะอย่างไร้เหตุผล ระหว่างที่ยืนเข้าแถวรอใช้บริการตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาบ้านสันโค้ง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 13 ธ.ค. 60
หลังเกิดเหตุพี่สาวของผู้เสียหายได้โพสต์ภาพและเรื่องราวที่เกิดขึ้นดังกล่าวในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อแจ้งเตือนภัย ซึ่งมีการแชร์ต่ออย่างรวดเร็วและมีการวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง ขณะที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามจับกุมตัวผู้ชายอายุ 47 ปีที่ก่อเหตุได้ พบว่าเป็นผู้ที่อาศัยในย่านใกล้เคียงที่เกิดเหตุและมีประวัติป่วยด้วยอาการทางจิต
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (14 ธ.ค.) ที่สถานีตำรวจภูธรสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญคู่กรณีทั้งสองฝ่ายเข้าพบเพื่อเจรจาตกลงค่าเสียหาย โดยที่นักศึกษาสาวที่เป็นผู้เสียหายเดินทางมาพร้อมกับพี่สาวที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วย และครอบครัว ส่วนทางฝ่ายผู้ก่อเหตุมีผู้เป็นแม่ที่อายุ 82 ปี เป็นตัวแทนเจรจา
ในช่วงเริ่มต้นของการเจรจาทางฝ่ายผู้เป็นแม่ของผู้ก่อเหตุยอมรับว่าลูกชายมีอาการป่ายทางจิตและต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่องมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้ว อย่างไรก็ตาม มีทีท่าไม่เชื่อว่าลูกชายของตัวเองเป็นผู้ก่อเหตุ จนกระทั่งต่อมาจำนนด้วยพยานหลักฐาน ทั้งนี้ทางฝ่ายผู้เสียหายเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 80,000 บาท แต่ทางฝ่ายผู้ก่อเหตุไม่ยอมรับและไม่สามารถตกลงกันได้ ทำให้มีการนัดหมายกันอีกครั้งในช่วงสัปดาห์หน้า
พ.ต.อ.เอกรัฐ พัฒนสมบัติ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรสันกำแพง เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติผู้ก่อเหตุในครั้งนี้พบว่ามีประวัติเป็นผู้ป่วยทางจิตที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวนปรุง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่ช่วงที่เป็นวัยรุ่นแล้ว และผู้ปกครองได้ส่งตัวเข้ารับการรักษามาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการก่อเหตุลักษณะนี้ตรวจสอบประวัติแล้วไม่พบว่าเคยก่อเหตุมาก่อน ขณะที่การดำเนินคดีนั้น เวลานี้ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนและพยานหลักฐานต่างๆ อย่างละเอียด รวมทั้งประเด็นที่ว่าในช่วงก่อเหตุนั้นผู้ก่อเหตุมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่ายอย่างแน่นอน