ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - สาววัย 19 ปี เปิดใจยังขวัญผวาหนักหลังพี่สาวโพสต์เตือนภัยยืนรอกดเอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อ ถูกผู้ชายนิรนามตรงดิ่งเข้ามาใช้คัตเตอร์กรีดแขนแล้วหลบหนีไปหน้าตาเฉย จนเป็นแผลยาว 7 เซนติเมตร ลึก 1.5 เซนติเมตร ต้องรีบส่งโรงพยาบาลเย็บ 8 เข็ม แกะรอยวงจรปิดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้พบเป็นชายวัย 47 ปี มีประวัติป่วยทางจิต ก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนเป็นประจำ ครอบครัวหญิงสาวลั่นเอาเรื่องให้ถึงที่สุดเพื่อเป็นเยี่ยงอย่างและไม่ไปก่อเหตุซ้ำกับคนอื่นอีก
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า วานนี้ (13 ธ.ค. 60) เกิดเหตุผู้ชายคนหนึ่งใช้มีดกรีดที่แขนของผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังกดเงินจากตู้เอทีเอ็มหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาบ้านสันโค้ง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ได้รับบาดเจ็บเป็นแผลขนาดใหญ่ที่แขนขวาและต้องรีบตัวรักษาที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปหน้าตาเฉย โดยหลังเกิดเหตุพี่สาวของผู้เสียหายได้โพสต์ภาพและเรื่องราวที่เกิดขึ้นดังกล่าวในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อแจ้งเตือนภัย และมีการแชร์ต่ออย่างรวดเร็วรวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรสันกำแพงได้รับแจ้งเหตุแล้วตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ชายที่ก่อเหตุได้ใช้คัตเตอร์กรีดที่แขนผู้เสียหาย แต่ไม่ได้นำทรัพย์สินใดๆ ไปด้วย ขณะที่จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดทราบตัวว่าผู้ก่อเหตุเป็นชายอายุ 47 ปี ที่มีบ้านอยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุ มีประวัติเป็นผู้ป่วยเข้ารับการรักษาอาการทางจิต โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการควบคุมตัวและนำตัวส่งตรวจโรงพยาบาลสวนปรุง จังหวัดเชียงใหม่
ขณะที่วันนี้ (14 ธ.ค.) น.ส.ปิยะธิดา ปิ่นบัว อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ ผู้เสียหายที่ถูกกรีดแขน เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุกำลังเข้าแถวเพื่อกดเงินจากตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสะดวกซื้อดังกล่าว ระหว่างนั้นผู้ชายที่ก่อเหตุได้เดินเข้ามาด้านหลังใช้คัตเตอร์กรีดแขนแล้วหลบหนีไปหน้าตาเฉย ตัวเองตกใจอย่างมากและพบว่าเป็นแผลขาดใหญ่ มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก จึงรีบกลับไปขึ้นรถยนต์ที่พี่สาวจอดรออยู่และไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลทันที ซึ่งแผลมีความยาว 7 เซนติเมตร ลึก 1.5 เซนติเมตร ต้องเย็บถึง 8 เข็ม
เบื้องต้นอาการบาดแผลดีขึ้นเล็กน้อย เพราะยังมีเลือดไหลและเจ็บปวดอยู่ตลอด รวมทั้งยังขวัญผวาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้กับใครอีก เพราะเท่าที่ทราบผู้ชายคนดังกล่าวมักจะก่อความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่นในละแวกดังกล่าวอยู่เป็นประจำ
ส่วน น.ส.นิโลบล ตาแก้ว อายุ 29 ปี พี่สาวของผู้เสียหายที่นำเรื่องราวไปโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว เปิดเผยว่า นำเรื่องราวดังกล่าวไปเผยแพร่เพราะต้องการให้เป็นอุทาหรณ์ และกรณีตัวอย่างเพื่อเตือนภัยคนอื่นๆ โดยครั้งแรกได้โพสต์ลงในกลุ่มเพื่อนฝูง แต่มีคนแนะนำว่าควรจะเปิดเป็นโพสต์เป็นสาธารณะ เพื่อเตือนให้คนทั่วไปได้ระมัดระวังตัวด้วย หลังจากนั้นได้มีการเผยแพร่และแชร์ต่อเป็นวงกว้างจนได้รับความสนใจกรณีที่เกิดขึ้นนี้อย่างมาก ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุได้มีการพูดคุยเบื้องต้นกับทางครอบครัวของผู้ก่อเหตุบ้างแล้ว อ้างว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยทางจิต
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวเห็นว่าทางครอบครัวของผู้ก่อเหตุควรจะต้องมีการดูแลไม่ให้ก่อเหตุลักษณะดังกล่าวหรือสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นเช่นนี้ เพราะผู้ที่อยู่อาศัยในละแวกดังกล่าวต่างให้ข้อมูลตรงกันว่าผู้ชายคนนี้มักจะก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่นอยู่เป็นประจำจนผู้คนเกิดความหวาดกลัว จนกระทั่งมาก่อเหตุในครั้งนี้กับน้องสาวของตัวเองซึ่งไม่อยากให้เกิดเรื่องเช่นนี้อีก
นอกจากนี้ นางปรียานุช อภิสมาจารโยธิน อายุ 61 ปี ป้าของผู้เสียหายเปิดเผยว่า ในช่วงเกิดเหตุหลานสาวกำลังจะไปส่งหลานชายที่เรียนชั้นเด็กเล็กไปโรงเรียน โชคดีที่หลานชายรออยู่ในรถยนต์กับหลานสาวอีกคนหนึ่ง ไม่เช่นนั้นแล้วไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นมากกว่านี้หรือไม่ จากเหตุที่เกิดขึ้นยืนยันว่าจะดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เพราะการก่อเหตุลักษณะดังกล่าวสร้างความเดือดร้อนเสียหายและหวาดกลัวให้ผู้อื่นอย่างมาก แม้จะอ้างว่าผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยทางจิตก็ตาม เพราะที่ผ่านมามีการก่อเหตุเป็นประจำ กระทั่งมาเกิดเหตุรุนแรงในครั้งนี้กับหลานสาวของตัวเอง จึงต้องการให้เป็นกรณีตัวอย่างและจัดการอย่างเด็ดขาดเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องขึ้นอีก ก่อนที่จะเกิดความเสียหายร้ายแรงกว่านี้ เพราะหากวันนั้นผู้ก่อเหตุกรีดที่ลำคอของหลานสาวแทนที่จะเป็นที่แขน ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
