xs
xsm
sm
md
lg

ไม่เกี่ยวค้ายานรก! หนองคายเร่งตรวจสอบเงิน 98 ล้าน ด้านสองลาวได้ประกันตัว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


หนองคาย - ศุลกากรหนองคายเร่งตรวจสอบที่มาของเงิน 98 ล้านบาท ทำหนังสือสอบถามธนาคาร 4 แห่งมีการเบิกเงินจริงหรือไม่ หลัง ป.ป.ส.ร่วมสอบไม่พบเชื่อมโยงยาเสพติด มั่นใจเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ด้านสองพี่น้องลาวยื่นขอประกันตัว

เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (13 ธ.ค.) ที่ด่านศุลกากรหนองคาย นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย พร้อมเจ้าหน้าที่ศุลกากร และตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ได้ร่วมกันตรวจสอบธนบัตรที่ทำการตรวจยึดได้จากรถยนต์ของนายสุบัน เตยสิริ และนายคำบอน เตยสิริ สองพี่น้องชาวลาว ขณะจะขับออกจากด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ โดยเป็นธนบัตรจริง รวม 98 ล้านบาท

นายด่านศุลกากรหนองคายได้ให้เจ้าหน้าที่ทำการจำแนกตามแถบมัดธนบัตร ว่าเป็นธนบัตรที่เบิกมาจากธนาคารไหน สาขาใดบ้าง เพื่อจะทำหนังสือสอบถามไปยังธนาคารดังกล่าวว่ามีการแลกเปลี่ยนธนบัตรจากสกุลเงินดอลลาร์เป็นเงินบาทจริงหรือไม่

นายนิมิตร แสงอำไพ นายด่านศุลกากรหนองคาย กล่าวว่า หลังจากทำการตรวจยึดจับกุม ศุลกากรได้สอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.หาที่มาของเงิน เนื่องจากเป็นเงินจำนวนมากเท่าที่เคยตรวจยึดได้ โดยได้สอบปากคำอย่างละเอียด ไม่พบความเชื่อมโยงกับยาเสพติดแต่อย่างใด ทั้งสองคนยังยืนยันว่าครอบครัวทำธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งที่นครหลวงเวียงจันทน์จะใช้สกุลเงินกีบ เงินบาท และเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก

ทั้งสองคนยื่นความประสงค์ขอประกันตัว และยินยอมยกเงินทั้งหมด 98 ล้านบาทให้เป็นทรัพย์สินของประเทศไทย ซึ่งตามประมวลระเบียบปฏิบัติของศุลกากร ระบุว่าในกรณีที่ผู้ต้องหาเป็นชาวต่างประเทศและมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าไม่สามารถหาหลักทรัพย์หรือบุคคลที่น่าเชื่อถือมาทำสัญญาประกันได้ และตามพฤติการณ์แห่งคดีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ต้องหาจะไม่หลบหนี ผู้ต้องหาสามารถประกันตนเองได้ โดยยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรให้ยึดเอกสารการเดินทางทุกชนิดไว้เป็นประกัน

ประกอบกับทั้งสองคนมีทนาย เจ้าหน้าที่จึงให้ประกันตัว แต่ยึดหนังสือเดินทาง พร้อมไม่อนุญาตให้ออกนอกประเทศจนกว่าคดีจะสิ้นสุด และในวันนี้ได้ให้ทั้งสองคนมารายงานตัวและสอบปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ง.

นายด่านศุลกากรหนองคายกล่าวเพิ่มเติมว่า มั่นใจว่ากรณีนี้เป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เพราะเป็นการลักลอบนำเข้า นำออกเงินตรา โดยไม่ผ่านเจ้าหน้าที่และสถาบันการเงินที่ถูกต้อง คาดว่าจะมีการกระทำลักษณะนี้บ่อยครั้ง จากการตรวจสอบพบว่าทั้งสองคนใช้รถยนต์คันดังกล่าวเข้าออกไปกลับภายในวันเดียว ช่วงระยะเวลา 2 เดือน 9 ครั้ง อาจจะเป็นการนำเงินมาแลกเปลี่ยน ซึ่งจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น