ลำพูน - อดีตนางงามธิดาลำไยลำพูน พร้อมเหยื่อแชร์โร่แจ้งตำรวจตรวจสอบชายต้องสงสัยลูกเขยนักธุรกิจดังฉ้อโกงแชร์ หนีหมายจับซุกตัวในบ้านกลางชุมชนประตูลี้ บอกโดนกันเพียบทั้งดีเจ นักธุรกิจ พ่อค้าแม่ขาย รวมเกือบครึ่งร้อย สูญเงินรวมกันเกือบ 20 ล้าน
พ.ต.ท.รัฐธรรมนูญ มูลรัตน์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งว่าพบชายต้องสงสัยหนีหมายจับ ไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลในคดีฉ้อโกงแชร์ และได้หลบมาพักอาศัยอยู่บ้านพักหลังหนึ่งย่านชุมชนประตูลี้เมื่อคืนที่ผ่านมา (12 ธ.ค.) จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 20 และสายตรวจรถจักรยานยนต์ไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบผู้เสียหายนำสำเนาหมายจับของศาลให้เจ้าหน้าที่ดู เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกชายที่ถูกกล่าวอ้างถึงออกมาจากที่พัก แต่ไม่ยอมออกมาพบเจ้าหน้าที่ อ้างว่าตนไม่ใช่ชายตามชื่อที่แจ้งมา ก่อนจะเดินหลบเข้าบ้านไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้พยายามเจรจา แต่ชายต้องสงสัยคนดังกล่าวไม่ยอมออกมา และเนื่องจากเป็นเวลากลางคืน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งให้ผู้เสียหายไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองลำพูน
จากการสอบถาม นางสาวจิตราพรรณ อุประกาศ อายุ 22 ปี อยู่บ้านหมู่ที่ 2 ต.ทาขุมเงิน อ.แม่ทา จ.ลำพูน อดีตธิดาลำไยของจังหวัดลำพูนเมื่อ 2 ปีก่อนเล่าว่า ตนและผู้เสียหายหลายคนที่มีทั้งดีเจนักจัดรายการ พ่อค้าแม่ค้า นักธุรกิจ รวมถึงเกษตรกรชาวสวนลำไย รวมกว่า 40 คน หลงเชื่อลูกสาว-ลูกเขยนักธุรกิจชื่อดังของจังหวัดลำพูน ซึ่งรู้จักกันไม่นาน และเคยจ้างตนไปถ่ายแบบสินค้าให้ ก่อนชักชวนเล่นแชร์
ตนได้นำเงินมาเล่นแชร์ทั้งหมดรวม 1.4 ล้านบาท ช่วงแรกพวกตนก็ได้เงินกลับมาพร้อมผลกำไร แต่ผ่านไปไม่กี่เดือนก็เริ่มมีปัญหา จนความแตกไม่มีเงินหมุนจ่ายให้ลูกแชร์ได้ทัน ทำให้ทุกคนที่ร่วมนำเงินมาเล่นแชร์หมดเงินทองกันมากมายตั้งแต่หลักหมื่น ถึงหลักล้าน และหลายล้านบาท รวมไม่ต่ำกว่า 18 ล้านบาท
นางสาวจิตราพรรณบอกอีกว่า ผู้เสียหายบางคนถึงกับเป็นหนี้เป็นสิน ล้มละลายทั้งด้านการเงิน และชีวิตครอบครัว จึงเกิดการฟ้องร้องเป็นเรื่องเป็นราวกันมานับปี เรื่องถูกเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จนมีการสั่งให้คืนทรัพย์สิน และมีหมายให้ผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาไปฟังคำพิพากษาของศาล แต่ผู้ต้องหาได้หลบหนีไม่ยอมไปฟังคำพิพากษามาแล้วครั้งหนึ่ง และศาลได้ออกหมายจับไว้
เมื่อตนเดินทางผ่านมาที่บ้านหลังดังกล่าว และพบว่าเท้าแชร์ที่ตกเป็นผู้ต้องหาหลบหนี ได้อยู่ในบ้านพัก จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบก่อนจะมาลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการต่อไป
เบื้องต้นในวันนี้ (13 ธ.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองลำพูน จะเข้าไปตรวจค้นจับกุมตามหมายศาลอีกครั้งหนึ่ง
