บุรีรัมย์-แก๊งมิจฉาชีพในคราบผ้าเหลือง ใช้เลห์ขอจำวัด อ้างจะไปธุระที่ปราจีนแต่รถเสียกลางทาง สบโอกาสพระในวัดนอนหลับ อุ้มตู้บริจาคบนศาลาการเปรียญไปทุบทำลายในป่าก่อนขโมยเงินหนีลอยนวล ตร.รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเร่งติดตามผู้ก่อเหตุอาจเป็นพระจริงหือพระปลอม
วันนี้ (9 ธ.ค.) ร.ต.อ.เอกพงษ์ เดชพรมรัมย์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีแก๊งมิจฉาชีพก่อเหตุลักขโมยเงินในตู้บริจาคที่วัดบ้านโสน ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพระลูกวัดได้พาไปดูจุดที่ตั้งของตู้บริจาคบริเวณด้านหน้าองค์พระประทาน ที่อยู่บนศาลาการเปรียญ แต่ได้ถูกแก๊งมิจฉาชีพอุ้มไปทุบทำลายที่ป่าละเมาะด้านหลังวัด แล้วขโมยเอาเงินในตู้บริจาคซึ่งคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 3,000 บาทหายไป
โดยหลวงตาเรือน พระลูกวัดเล่าว่า ก่อนที่ตู้บริจาคจะถูกทุบพังเสียหายแล้วขโมยเงินไป ได้มีพระอายุประมาณ 60 ปี 1 รูป มาขอจำวัดโดยอ้างว่ามาจาก จ.ขอนแก่น จะเดินทางไปธุระที่ จ.ปราจีนบุรี แต่รถเกิดเสียกลางทาง จึงขอจำวัดชั่วคราว
พอวันถัดมาก็มีพระอีก 2 รูปอายุประมาณ 30 ปี และ 20 ปี รวมถึงโยมซึ่งเป็นวัยรุ่นชายอีก 1 คนอายุประมาณ 20 ปี ได้มาหาพระรูปแรก พร้อมขออาศัยที่วัดเช่นกัน แต่ไม่ได้แจ้งว่าจะอยู่กี่วัน
ด้วยความเมตตาและเห็นใจว่าไม่มีที่พัก จึงให้อาศัยอยู่ที่กุฏิหลังวัดซึ่งว่างอยู่ แต่ยอมรับว่าพลาดตรงที่ไม่ได้ขอดูใบสุทธิว่าเป็นพระจริงหรือไม่
กระทั่งเมื่อเช้าวันเดียวกันนี้ พระนกแก้ว เดชะธรรมโม พระลูกวัดที่นอนอยู่บนศาลาการเปรียญตื่นมาแต่ไม่เห็นตู้บริจาคmujตั้งอยู่หน้าองค์พระประทาน จึงได้สอบถามพระในวัดก็ไม่มีใครเห็น เมื่อเดินไปดูพระ 3 รูปและโยมที่มาขออาศัยอยู่ที่กุฏิด้านหลังก็พบว่าได้หายไปแล้ว เมื่อตรวจสอบโดยรอบก็ไปพบตู้บริจาคถูกนำไปทิ้งในป่าละเมาะด้านหลังวัด ในสภาพถูกทุบพังเสียหายและเงินในตู้บริจาคก็หายไป
จึงทำให้เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของพระต่างถิ่นที่มาขออาศัยจำวัดทั้ง 3 รูป จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและติดตามแก๊งมิจฉาชีพที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เก็บร่องรอยหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจหาลายนิ้วมืออีกครั้ง เพื่อจะได้เร่งติดตามตัวแก๊งมิจฉาชีพมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป