กาญจนบุรี - ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย-พม่า บ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี นำทีมบุกตลาดจำหน่ายอุปกรณ์ก่อสร้าง ณ กรุงย่างกุ้ง หลังฝ่าด่านด้านกฎหมายการค้าในพม่าได้สำเร็จรายแรก
วันนี้ (3 พ.ย.) พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย-พม่า บ้านพุน้ำร้อน เปิดเผยว่า หลังจากที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) ประกาศเปิดประเทศ ทำให้มีนักลงทุนจากทั่วโลกให้ความสนใจเข้าไปลงทุนในประเทศเมียนมา โดยเฉพาะการลงทุนด้านทรัพยากร รวมทั้งการลงทุนด้านอุปกรณ์การก่อสร้างทุกชนิด ซึ่งจะเป็นโอกาสทองของนักธุรกิจที่คาดว่าจะมีโอกาสขยายความเจริญเติบโตมากยิ่งขึ้นในอนาคต
สำหรับนักธุรกิจที่เป็นชาวไทย หรือนักธุรกิจชาวจังหวัดกาญจนบุรี หากมีความต้องการเข้าไปลงทุน จะต้องศึกษาเรื่องกฎหมายการค้าของพม่าที่มีเงื่อนไขกับนักลงทุนชาวต่างชาติให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ สำหรับเงื่อนไขทางด้านกฎหมายที่เกี่ยวกับนักลงทุนต่างชาติ รัฐบาลพม่าอนุญาตให้นักลงทุนต่างชาติลงทุนได้ 3 รูปแบบ คือ 1. ถือหุ้น 100% (Full Ownership) 2. ร่วมทุนกับชาวพม่า หรือหน่วยงานภาครัฐของพม่า (Joint Venture) และ 3. ลงทุนในลักษณะหุ้นส่วน (Partnership)
ที่ผ่านมา บริษัทของไทยที่ดำเนินธุรกิจในการเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้างอย่าง บริษัท เคที โฮมมาร์ท (KT Homemart) ก็สามารถก้าวเดินเข้าไปทำธุรกิจ ในฐานะผู้ประกอบการขนาดกลางเป็นรายแรกที่สามารถผ่านในเรื่องกฎหมายการค้าของพม่าที่เข้มงวดเข้าไปได้
แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่สนใจเข้าไปลงทุนในพม่าจะต้องศึกษาและพิจารณาให้ดีก่อนตัดสินใจเข้าไปลงทุน เพราะแต่ละธุรกิจมีเงื่อนไขต่างกัน เช่น สนามกอล์ฟลงทุนแบบ Joint Venture ได้เท่านั้น ธุรกิจนิตยสารเฉพาะทางภาษาต่างประเทศ รัฐฯ กำหนดให้ชาวพม่าต้องถือหุ้นอย่างน้อยร้อยละ 51 หรือถ้าเป็นธุรกิจโรงแรม 4-5 ดาว จะสามารถลงทุนได้ 100% เพราะโรงแรมในประเทศเมียนมานั้นมีน้อยมาก
และขอแนะนำว่าหากคนไทยต้องการเข้าไปลงทุนธุรกิจ ควรหาพันธมิตรทางธุรกิจที่เป็นชาวพม่าให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งจุดเริ่มต้นของบริษัท เคที โฮมมาร์ท มาจากการที่ตนมีเพื่อนเป็นนักธุรกิจชาวพม่า ก็คือ นายอู ทูนตัน อดีตผู้ว่าฯเมืองย่างกุ้ง ที่มาร่วมลงทุนกับ บริษัท เคที โฮมมาร์ท ซึ่งนายอู ทูนตัน นั้นมีคอนเนกชันทางด้านธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเมืองย่างกุ้งอย่างมากมายอยู่แล้ว และการร่วมลงทุนในธุรกิจดังกล่าวเป็นการร่วมลงทุนในลักษณะหุ้นส่วน หรือ Partnership
พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ ประธานชมรมผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย-พม่า บ้านพุน้ำร้อน เปิดเผยต่อว่า กิจการตรงนี้เป็นความร่วมมือกันของนักธุรกิจไทยที่ได้มาทำการค้าร่วมกันในฐานะ “หุ้นส่วนทางธุรกิจ” กับคนพม่าซึ่งเป็นแนวคิดค่อนข้างใหม่ ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีโอกาสและเป็นจุดเริ่มต้นของการกระจายสินค้าและสร้างแบรนด์ขึ้นมา โดยสินค้าทุกชิ้นที่นำเข้ามาได้ผ่านกระบวนการถูกกฎหมายของพม่าทั้งหมด
ยอมรับว่าในอดีตเป็นเรื่องยากและไม่สามารถทำได้ง่ายๆ เพราะการบังคับใช้กฎหมายของประเทศเมียนมานั้นค่อนข้างรุนแรง แต่วันนี้เราทำได้ เราสามารถปลดล็อก จากการค้าชายแดนเข้ามาสู่กรุงย่างกุ้งใจกลางเมืองหลวงของประเทศเมียนมาสำเร็จ จึงถือว่าเป็นโอกาสดีที่ได้สนับสนุนสินค้าของไทยให้สามารถเติบโตได้อย่างเต็มความภาคภูมิในประเทศเพื่อนบ้าน
ด้านนายเทอดศักดิ์ กิตติวรากูร ประธานกรรมการผู้จัดการ บริษัท เคที โฮมมาร์ท จำกัด กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เราทำธุรกิจด้าน “อิมพอร์ต-เอ็กซ์พอร์ต” อยู่ที่บริเวณด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี ทำให้เรามองเห็นโอกาสในการที่จะขยายการลงทุนทางธุรกิจเข้ามาภายในพม่า โดยเฉพาะธุรกิจก่อสร้าง เพราะปัจจุบันนี้ประชาชนของประเทศเมียนมาเองมีกำลังการซื้อที่มีศักยภาพสูงมาก
สำหรับจุดแข็งของเราคือสินค้าที่มีอยู่จะต้องผ่านการคัดเลือกในเรื่องของคุณภาพซึ่งเป็นสินค้าที่ชาวพม่ามีความเชื่อถือ ที่สำคัญราคาสามารถแข่งขันกับเขาได้ ด้วยความคิดนี้เราจึงสร้าง เคที โฮมมาร์ท ให้เป็นรูปธรรมขึ้นมา แต่สิ่งสำคัญคือกลยุทธ์ทางการตลาดที่ได้วางเอาไว้ เพราะเราไม่ได้เปิดโฮมมาร์ทเพื่อขายปลีกเหมือนเช่นโฮมมาร์ททั่วไป แต่เป็นการเปิดหน้าร้านในการเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าก่อสร้างภายใต้ชื่อ เคที โฮมมาร์ท เพื่อเข้ารับการประมูลงานโครงการต่างๆ ในประเทศ โดยมีตัวแทนร้านวัสดุก่อสร้างกระจายอยู่ทั่วกรุงย่างกุ้ง การประสบความสำเร็จในครั้งนี้เพราะเรามีพันธมิตรชาวพม่าที่ดีอย่าง คุณอู ทูนตัน ที่ให้คำแนะนำที่ดี ทำให้เราก้าวมาสู่จุดเริ่มต้นตรงนี้ได้
โดยสินค้าที่วางอยู่ใน เคที โฮมมาร์ท จะเป็นวัสดุและการตกแต่งเกี่ยวกับงานก่อสร้างภายใต้แบรนด์ไทยทั้งหมด เช่น สุขภัณฑ์ หินอ่อนปูพื้น กระเบื้อง กลอนประตู ท่อน้ำ แอร์ ผ้าม่าน และวอลเปเปอร์ เป็นต้นเรียกว่าหากผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวเมียนมาคิดจะสร้างหมู่บ้านหรือคอนโดฯ ขึ้นมาสักโครงการหนึ่ง เพียงเดินเข้ามาที่ เคที โฮมมาร์ท เราสามารถจัดหาให้ได้หมด
ส่วนนายอู ทูนตัน อดีตผู้ว่าฯ เมืองย่างกุ้ง กล่าวว่าเรามีความคิดที่จะเปิดร้านโฮมมาร์ทมานานแล้ว ตนรู้สึกภูมิใจ ที่ทั้งสองประเทศคือไทยและพม่าได้จับมือทำธุรกิจร่วมกันในครั้งนี้ การที่ตนตัดสินใจทำธุรกิจกับคนไทยเพราะว่าเรามีมิตรภาพที่ดีต่อกันมาก่อน และสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่ความหวัง แต่เราได้ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงขึ้นแล้ว
โดยการร่วมลงทุนและเปิดร้าน เคที โฮมมาร์ท ถือเป็นก้าวแรก ซึ่งก้าวต่อไปเราจะเน้นไปในเรื่องของการทำมาร์เกตติ้ง ซึ่งเราได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันมาโดยตลอดกับพันธมิตรผู้ร่วมลงทุนคนไทย และเชื่อว่าจะเป็นการเปิดโอกาสให้นักธุรกิจชาวไทยรายอื่น ได้สามารถเข้าไปทำธุรกิจในพม่าได้ในอนาคตเชื่อว่าจะมีการนำเอาธุรกิจที่น่าสนใจตัวอื่นๆ เข้าไปเปิดตลาดในพม่าเพิ่มขึ้นอีกอย่างแน่นอน