ศรีสะเกษ - ทหารพัฒนา นพค.53 นำชาวบ้านศรีสะเกษกว่า 2,000 คน “ลงแขกเกี่ยวข้าว” ใหญ่ที่สุดในโลกช่วยเหลือชาวนา สร้างความรักสามัคคี ลดต้นทุนการผลิตแก่เกษตรกร มีพื้นที่แปลงนารวมกว่า 1,300 ไร่ 180 ราย
วันนี้ (1 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่แปลงนาบ้านกระเบา ต.โนนสูง อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พล.อ.ธงชัย สาระสุข ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ “ประชารัฐ ตุ้มโฮม สามัคคีประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว” ซึ่งหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53 (นพค.53) สำนักงานพัฒนาภาค 5 จัดขึ้น โดยมี พ.อ.วีระไชย เหเตโชดม ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53 นำส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชน และจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ ต.โนนสูง และ ต.บักดอง กว่า 2,000 คน ร่วมในพิธี “รับขวัญข้าว” เพื่อบอกกล่าวแม่พระโพสพ สิ่งศักดิ์สิทธิ์และบรรพบุรุษ และลงแปลงนาร่วมกันลงแขกเกี่ยวข้าว ซึ่งมีพื้นที่แปลงนารวมกว่า 1,300 ไร่
พร้อมได้จัดให้มีการแข่งขันลงแขกเกี่ยวข้าว นับว่าเป็นการลงแขกเกี่ยวข้าวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เนื่องจากมีชาวนามาร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวจำนวนมากเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรี ระหว่างประชาชนในพื้นที่ ต.บักดอง และ ต.โนนสูง ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก สนุกสนาน มีเสียงหัวเราะและรอยยิ้มแบบมีความสุขท่ามกลางสภาพอากาศที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าว
พล.อ.ธงชัย สาระสุข ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้มีนโยบายการจัดทำโครงการประชารัฐเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและประชาชนผู้มีรายได้น้อย โดยรวมพลังภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และภาคประชาชน หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้มอบหมายให้หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ในสังกัดทั้ง 30 หน่วยทั่วประเทศ จัดทำโครงการประชารัฐ ด้วยการสำรวจความต้องการของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งน้อมนำศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนมาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนชาวไทย
พ.อ.วีระไชย เหเตโชดม ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53 กล่าวว่า หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 53 ได้จัดทำโครงการ “ประชารัฐ ตุ้มโฮม สามัคคี ประเพณีลงแขกเกี่ยวข้าว” ตามนโยบายของหน่วยเหนือ ซึ่งตำบลที่เป็นเป้าหมายในการพัฒนาคือตำบลโนนสูงและตำบลบักดอง ทั้งนี้เพื่อเป็นการปลุกจิตสำนึกให้เยาวชนและประชาชนได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิมของการทำนาให้เกษตรกรหันมาทำนาด้วยวิธีลงแขกเกี่ยวข้าว เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน พัฒนาไปสู่ความรัก ความสามัคคีในชุมชน
รวมทั้งยังเป็นการลดต้นทุนในการผลิตตามวิถีแห่งความพอเพียงให้แก่เกษตรกร จนถึงขณะนี้มีสมาชิกที่รวมกลุ่มเข้าร่วมโครงการฯ จำนวน 183 คน มีพื้นที่แปลงนารวมแล้วกว่า 1,300 ไร่ ซึ่งในปีต่อไปจะดำเนินการจัดตั้งกลุ่มทำปุ๋ยอินทรีย์ในเดือน พ.ค. 2561 การชุมนุมลงแขกดำนาในเดือน ส.ค. 2561 และการลงแขกเกี่ยวข้าวในเดือน พ.ย. 2561 ต่อไป