ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - นายแน่มาก! หนุ่มผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ฉวยโอกาสสิบเวรเปลี่ยนผลัดช่วงหัวค่ำ แหกห้องขังโรงพักภูพิงค์ฯ หนีลอยนวล ทั้งที่มีตำรวจปฏิบัติหน้าที่อยู่หลายนาย ผ่าน 3 วันแล้วยังไร้เงา ขณะที่ผู้กำกับฯ เผยเร่งควานหาทั้งที่บ้านเกิดลำปาง และจุดต่างๆ คาดรวบตัวได้ในเร็ววันนี้ พร้อมตั้งกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า เกิดเหตุผู้ต้องหาหลบหนีออกจากห้องขังสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงค่ำวันที่ 26 พ.ย.60 อย่างไรก็ตาม เพิ่งมีการเปิดเผยเรื่องดังกล่าว
โดยวันนี้ (30 พ.ย.) พ.ต.อ.ปิติพงษ์ บุตรเปี่ยม ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ ยอมรับว่า เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นจริง ซึ่งผู้ต้องหาที่หลบหนีไปได้คือ นายพีรณัฐ หลงลืม อายุ 26 ปี ที่อยู่ 42 หมู่ 7 ตำบลร่องเคาะ อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง ที่ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 25 พ.ย.60 ข้อหาลักทรัพย์ จากการก่อเหตุที่โรงแรมบุรีศิริ ซอย 11 ถนนศิริมังคลาจารย์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ แล้วถูกควบคุมตัวนำมาขังไว้ที่สถานีตำรวจเพื่อเตรียมดำเนินการส่งฟ้องศาล
แต่ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.ของวันที่ 26 พ.ย.60 ได้ก่อเหตุหลบหนีออกจากห้องควบคุมผู้ต้องหาที่อยู่บริเวณชั้น 2 ของสถานี โดยอาศัยจังหวะที่ทางเจ้าหน้าที่สิบเวรที่ดูแลห้องควบคุมผู้ต้องหามีการผลัดเปลี่ยนเวรแล้วลืมล็อกประตูห้องขังชั้นใน ทำให้นายพีรณัฐ แอบมาหลบอยู่บริเวณห้องเยี่ยมญาติ แล้วฉวยโอกาสที่สิบเวรผลัดใหม่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในห้องควบคุมผู้ต้องหา โดยวิ่งสวนออกไปแล้วขังสิบเวรไว้ในห้องควบคุมผู้ต้องหา หลบหนีไปได้ ซึ่งเวลานี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวผู้ต้องหารายนี้ให้ได้โดยเร็วที่สุด
สำหรับจำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในช่วงที่เกิดเหตุนั้น ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรภูพิงคราชนิเวศน์ บอกว่า ในช่วงเกิดเหตุมีเจ้าหน้าที่สิบเวรเพียงนายเดียวที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ชั้น 2 บริเวณด้านหน้าห้องควบคุมผู้ต้องหา ส่วนที่ชั้นล่างของสถานี มีเจ้าหน้าที่ร้อยเวรปฏิบัติหน้าที่อยู่ ซึ่งหลังเกิดเหตุได้เร่งติดตามตัวทันทีแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากเหตุที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะด้วยข้อบกพร่อง หรือสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้ผู้ต้องหาหลบหนีไปได้ ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงเพื่อติดตามข้อมูลมาประกอบการพิจารณาแล้ว และได้กำชับเจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่ยิ่งขึ้น ส่วนการติดตามตัวผู้ต้องหาที่หลบหนีนั้น เวลานี้กำลังเร่งดำเนินการติดตามตัวคนร้ายอย่างเร่งด่วน ทั้งที่บ้านของผู้ต้องหาที่จังหวัดลำปาง และจุดอื่นๆ ที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนีไปกบดาน
และช่วงนี้ยังอยู่ในระหว่างช่วง 90 วัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ควบคุมผู้ต้องหา หรือสิบเวรนั้นจะต้องไปทำการติดตามตัวผู้ต้องหาให้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งคาดว่าการดำเนินการติดตามตัวนั้นน่าจะสามารถจับกุมตัวได้อีกไม่นานนี้ เนื่องจากมีรูปพรรณของคนร้าย และประวัติที่ชัดเจน จากนั้นก็จะได้นำตัวมาดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
