ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทน.แหลมฉบัง ร่วมภาคเอกชนและชุมชนในพื้นที่ วางแผนแก้ไขปัญหาเหตุเดือดร้อนรำคาญจากลิง แบบบูรณาการและยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดประชากรลิงให้น้อยลงและสามารถอยู่ร่วมกันได้
วันนี้(29 พ.ย.) นายธานี เกียรติพิพัฒนกุล รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง เป็นประธานประชุมสรุปผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาเหตุเดือดร้อนรำคาญจากลิง แบบบูรณาการและยั่งยืน ประจำปีงบประมาณ 2560 ครั้งที่ 2 โดยมีหน่วยงานภาครัฐ,เอกชน และชุมชนในพื้นที่เทศบาลนครแหลมฉบัง ร่วมประชุมในครั้งนี้
นายธานี กล่าวว่า ที่ผ่านมานางจินดา ถนอมรอด นายกเทศมนตรีนคร คณะผู้บริหาร ,สมาชิกสภาเทศบาล มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่มีประชากรลิงอาศัยอยู่ ซึ่งได้รับความเดือดร้อนจากพฤติกรรมของลิง เช่น ขโมยของหรือทำลายข้าวของ ,กีดขวางการจราจร ,รวมถึงการทำร้ายผู้อยู่อาศัย และที่สำคัญมีการขยายพันธุ์ของประชากรลิงที่มีอัตราเพิ่มขึ้น ดังนั้นทางสำนักงานสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลนครแหลมฉบัง จึงจัดโครงการดังกล่าวขึ้นมา
โดยโครงการทำหมันลิงนั้น ทางเทศบาลฯได้รับงบสนับสนุนงบจากบริษัทเอกชนในพื้นที่ เช่น ท่าเรือแหลมฉบัง ,บริษัทเคอร์รี่ สยามซีพอร์ต จำกัด ,บริษัทยูนิไทย ชิปยาร์ด เอ็นจิเนียร์ริ่ง จำกัด , บริษัทกลุ่มไทยออยล์ จำกัด ,บริษัท ปตท. จำกัด โดยประสานกับสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) นำกรงไปวางดักตามแหล่งที่อยู่อาศัย โดยเลือกลิงเพศผู้ด้วยวิธีตัดท่อน้ำเชื้อ ครั้งละจำนวน 200 ตัว ตัวละ 2,000 บาท ซึ่งประสบผลสำเร็จตามแผนงานที่วางไว้
นายธานี กล่าวต่อไปว่า ทางเทศบาลฯมีแผนอย่างต่อเนื่อง และดำเนินการใน ครั้งที่ 2 แต่ในครั้งนี้ลิงเริ่มมีการเรียนรู้ และไม่เข้าไปในกรงเช่นเดิม ทำให้ยากต่อการทำหมัน แต่อย่างไรก็ตามจะต้องหาแนวทางใหม่ เพื่อลดประชากรลิงให้น้อยลง เช่น อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลกรูปแบบของกรงให้แตกต่างจากเดิม ,นอกจากนั้นอาจจะมาทำหมันลิงตัวเมียด้วยนอกเหนือจากลิงตัวผู้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการพูดคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแนวทางดังกล่าวต่อไป
นายสมพร รักไทย รองประธานชุมชนบ้านอ่าวอุดม กล่าวว่า การทำหมันลิงนั้นควรทำอย่างต่อเนื่อง และอาจทำ 6 เดือนครั้ง เพราะ 1 ปี ทำครั้งอาจจะช้าไป เนื่องจากปัจจุบันพบว่าลิงหนุ่ม สามารถผสมพันธุ์และขยายพันธุ์ได้แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าไม่มีการดำเนินการทำหมันกับลิงหนุ่ม แต่เมื่อปล่อยระยะเวลาให้เนินน่านไป จึงกลายเป็นจุดเพิ่มประชากรลิงแล้ว ดังนั้นจึงต้องย่นระยะเวลาให้เร็วขึ้น เพื่อลดประชากรลิงตามเป้าหมายที่วางไว้
ด้านนายเลอเลิศ อมรสังข์ ผู้จัดการประชาสัมพันธ์โรงกลั่นน้ำมันไทยออยล์ และบริหารงานชุมชนในเครือไทยออยล์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าว ทางกลุ่มไทยออยล์ฯ ตั้งใจและยินดีให้การสนับสนุนและช่วยเหลือตลอดไป เพราะขณะนี้รูปแบบที่ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ เป็นตัวอย่างและสามารถนำไปดำเนินการในพื้นที่อื่นๆได้ เพราะปัจจุบันปัญหาลิงเป็นปัญหาระดับชาติแล้ว ดังนั้นจะต้องร่วมกันและดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดประชากรลิง ตามหลักวิชาการและสามารถอยู่ร่วมกันได้ทั้ง 2 ฝ่าย