ตาก - รอง ผอ.รพ.แม่สอดยืนยันอาการผู้ป่วยแอนแทรกซ์ดีขึ้นจนปลอดภัยแล้ว พร้อมแจกยาผู้ที่เคยสัมผัสทั้ง 247 ราย ด้านปศุสัตว์ประกาศเขตควบคุม 2 ตำบล 8 หมู่บ้านชายแดนแม่สอด ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ ก่อนเร่งฉีดวัคซีนทั้งโค กระบือ แพะ แกะ ทุกตัวสกัดการแพร่ระบาด
วันนี้ (29 พ.ย.) นายแพทย์ สมยศ กรินทราทันต์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลแม่สอด แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนกรณีพบผู้ป่วยโรคแอนแทรกซ์ในพื้นที่ ต.มหาวัน อ.แม่สอด ซึ่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลแม่สอดตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย. 60
นายแพทย์ สมยศระบุว่า จากการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการยืนยันผลเป็นบวก หมายถึงติดเชื้อจากโรคแอนแทรกซ์จำนวน 1 ราย เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านห้วยมหาวงศ์ หมู่ที่ 9 ต.มหาวัน อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งติดเชื้อจากการสัมผัสเนื้อแพะที่นำไปย่างรับประทาน ส่วนผู้ป่วยอีก 2 รายที่เหลือนั้นคาดว่าอาจได้รับยาไปก่อนหน้านั้น ทำให้ตรวจหาเชื้อไม่พบ
ส่วนสาเหตุที่การตรวจเพาะเชื้อในช่วงแรกไม่พบ เนื่องจากคนไข้ได้รับยารักษาโรคจากคลินิกเอกชนมาก่อนหน้าที่จะมารักษาที่โรงพยาบาลแม่สอด
คนไข้ที่มารักษาตัวในโรงพยาบาลแม่สอด ขณะนี้แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว ยังเหลืออีก 1 รายที่ยังพักรักษาตัวรอดูอาการอยู่ที่โรงพยาบาลอีกสักระยะ ซึ่งขณะนี้อาการคนไข้ดีขึ้นมากจนปลอดภัยแล้ว
สำหรับเจ้าหน้าที่ และประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นผู้สัมผัสกับเชื้อโรคจำนวน 247 ราย ทีมแพทย์ได้ลงพื้นที่แจกยาให้รับประทาน และขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงโรคระบาดรับประทานยาให้ครบ และรับประทานยาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 60 วันตามที่แพทย์สั่ง
ด้านนายจีระศักดิ์ พิพัฒนพงโสภณ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ ซึ่งลงพื้นที่ด่วนพร้อมทีมทำงานมาติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อำเภอแม่สอด กล่าวว่า ขณะนี้กรมปศุสัตว์ได้สั่งการชะลอการนำเข้าวัว และแพะจากประเทศเพื่อนบ้านผ่านแนวชายแดนแม่สอดทุกจุด
นอกจากนี้ยังได้ประกาศเขตเฝ้าระวังโรคระบาดชั่วคราวในรัศมี 5 กิโลเมตรรอบจุดชำแหละสัตว์ครอบคลุมในพื้นที่ 2 ตำบล รวม 8 หมู่บ้าน ประกอบไปด้วย ตำบลมหาวัน 7 หมู่บ้าน และตำบลแม่กุ 1 หมู่บ้าน ซึ่งมีสัตว์ในพื้นที่ดังกล่าวรวมจำนวน 2,249 ตัว เป็นโคเนื้อ 1,343 ตัว กระบือ 46 ตัว แพะ 610 ตัว และแกะ 250 ตัว
โดยสั่งการให้กักสัตว์ในพื้นที่ควบคุมเป็นเวลา 21 วัน พร้อมฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้สัตว์ทุกตัว และเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงโรคระบาดอย่างเข้มงวดตลอด 24 ชั่วโมง
พร้อมกันนั้นยังได้เร่งทำการประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงและเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ทุกชนิดให้เฝ้าดูสังเกตอาการของสัตว์เลี้ยงทุกตัวในระยะที่กำหนดนี้ หากพบสัตว์ตายแบบผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์โดยทันที
