เชียงราย/ลำปาง - กิจกรรมอาบน้ำแร่-แช่น้ำร้อนสู้หนาวคึกคัก ทั้งชาวบ้านร้านถิ่น-นักท่องเที่ยวแห่ใช้บริการแน่นทุกบ่อ กลุ่มจังหวัดล้านนาตะวันออกโหมดัน 5 เส้นทางทัวร์น้ำพุร้อน ขณะที่ “ลำปาง” เปิดแล้ว 3 บ่อ
วันนี้ (29 พ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาพอากาศที่หนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ ทำให้สถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติต่างๆ โดยเฉพาะโป่งน้ำร้อน หรือบ่อน้ำพุร้อน-น้ำแร่ธรรมชาติ ในหลายจังหวัดของภาคเหนือคึกคักเต็มไปด้วยผู้คนทั้งชาวบ้านพื้นถิ่น นักท่องเที่ยว
เช่น น้ำพุร้อนธรรมชาติป่าตึง ต.ป่าตึง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ที่มีการจัดเป็นอาคารมีหลังคาและน้ำแร่ที่ไหลออกมาจากน้ำพุร้อนเป็นชั้นๆ เรียงลำดับตามระดับความร้อนจากประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส จนถึง 50-65 องศาเซลเซียส ลงไปเรื่อยๆ ตามลำดับ
นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำร้อนบางจุดที่ผุดขึ้นในบริเวณใกล้เคียงกัน ซึ่งมีความร้อนในระดับอุณหภูมิน้ำเดือด ก็กลายเป็นจุดที่ผู้คนนำไข่ไก่ ไข่นกกระทา ฯลฯ ไปต้มให้สุก แล้วขายให้นักท่องเที่ยวกันคึกคัก รวมทั้งมีเอกชนเช่าพื้นที่ลงทุนสร้างห้องพักที่มิดชิด ให้เช่านอนแช่น้ำแร่ในราคาชั่วโมงละประมาณ 100 บาทด้วย
นางปราณปริยา พลเยี่ยม ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จ.เชียงราย เปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 มีการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใต้โครงการ “5 เส้นทางสร้างสุขท่องเที่ยวแหล่งน้ำพุร้อน-ล้านนา เวลเนส”
ประกอบด้วยเส้นทางที่ 1 น้ำพุร้อนผาเสริฐ-ห้วยหมากเลี่ยม ต.ดอยฮาง อ.เมืองเชียงราย เส้นทางที่ 2 น้ำพุร้อนโป่งพระบาท ต.บ้านดู่ อ.เมือง เส้นทางที่ 3 น้ำพุร้อนป่าตึง ต.ป่าตึง อ.แม่จัน เส้นทางที่ 4 ได้แก่น้ำพุร้อนโป่งปูเฟือง ต.เวียงสรวย อ.แม่สรวย และเส้นทางที่ 5 อยู่ในเขต ต.แม่ป้าก อ.วังชิ้น จ.แพร่ ที่น้ำพุร้อนแม่จอก
ส่วนที่ลำปาง ก็มีบ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติที่เปิดให้บริการแล้ว คือ 1. น้ำพุร้อนแจ้ซ้อน อุทยานแห่งขาติแจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง และโป่งน้ำร้อน บ้านโป่งน้ำร้อน หมู่ที่ 1 ต.ใหม่พัฒนา อ.เกาะคา จ.ลำปาง ซึ่งมีการพัฒนาปรับปรุงเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดไปแล้ว
ล่าสุดยังมีการพัฒนาน้ำพุร้อนบ้านโป่งร้อน หมู่ที่ 1 ต.เสริมกลาง อ.เสริมงาม ขณะนี้ได้มีการปรับปรุงพื้นที่รองรับนักท่องเที่ยวเสร็จเกือบ 100% แล้วเช่นเดียวกัน
นางพลอย กาวิโล ประธานกลุ่มการท่องเที่ยวประจำหมู่บ้านโป่งน้ำร้อน ได้เชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวลำปาง และจังหวัดใกล้เคียงเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน แช่น้ำแร่ธรรมชาติ เช่นเดียวกับน้ำแร่แจ้ซ้อน ซึ่งที่ผ่านมาชาวบ้านในพื้นที่จะมานอนแช่น้ำแร่ร้อนในลำธารทั้งช่วงเช้าและเย็นของทุกวัน
นางพลอยบอกว่า ปัจจุบันสถานที่แห่งนี้ได้มีการพัฒนาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดลำปาง มีห้องอาบน้ำแร่ส่วนตัว ซึ่งจะแตกต่างจากที่อื่นตรงที่จะไม่เปิดน้ำขังไว้ในบ่อ แต่จะเปิดน้ำแร่เข้าอ่างเมื่อมีนักท่องเที่ยวต้องการแช่น้ำแร่เท่านั้น โดยจะมีค่าบริการคนละ 50 บาท
นอกจากนี้ บริเวณรอบนอกนักท่องเที่ยวยังสามารถนำไข่ไก่ ไข่นกกระทา มาต้มในบ่อน้ำแร่ร้อน อุณหภูมิประมาณ 80 องศา ใช้เวลาประมาณ 7-10 นาทีก็จะได้ไข่ต้มน้ำแร่แบบไข่มะตูม จากนั้นก็นำไข่ต้มน้ำแร่มาใส่ซอสและพริกไทยรับประทานได้
เมื่อนักท่องเที่ยวอาบน้ำแร่แช่น้ำร้อน-รับประทานไข่ต้มน้ำแร่เสร็จ ยังสามารถเที่ยวชมวิถีชุมชนปกากะญอ ที่จะกี่เอวทอผ้าให้ได้ชม พร้อมเลือกซื้อ หรือหากนักท่องเที่ยวต้องการจะนอนพักผ่อนค้างคืนเพื่อชมธรรมชาติและวิถีชุมชน ก็มีโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวด้วย