ช้างป่าภูหลวงล้มซากเน่าคาไร่ชาวบ้าน สัตวแพทย์คาดสาเหตุกินยาฆ่าหญ้า

เลย - ช้างป่าภูหลวงล้มภายในสวนเกษตรชาวบ้าน สภาพเน่าเฟะ ไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย คาดล้มมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 สัปดาห์ ทีมสัตวแพทย์คาดช้างออกมาหากินพืชไร่ชาวบ้าน กินยาฆ่าหญ้าจนล้ม ส่งเนื้อเยื่อกระเพาะตรวจพิสูจน์หาสาเหตุที่แท้จริง

วันนี้ (28 พ.ย. 60) ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อ.ด่านซ้าย จ.เลย นายถาวรศักดิ์ วงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าที่ 8 จ.ขอนแก่น, นายสุรพล ประสมทรัพย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง อ.ภูเรือ จ.เลย, สัตวแพทย์หญิง นันทิตา รักษาชาติ แพทย์ชำนาญการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าที่ 8 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ด่านซ้าย จ.เลย เดินทางไปตรวจสอบช้างป่าล้ม บริเวณรอยต่อระหว่างเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงกับไร่ของชาวบ้าน ห่างจากบ้านวังเวิน หมู่ 6 ต.วังยาว อ.ด่านซ้าย ประมาณ 5 กิโลเมตร

จากการตรวจสอบพบว่าช้างตัวนี้เป็นช้างพัง อายุประมาณ 20-25 ปี สภาพศพเน่าเปื่อย คาดว่าล้มมาแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ บริเวณลำตัวของช้างไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย หรืออวัยวะสูญหาย สันนิษฐานว่าช้างพังตัวนี้ออกจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงมาหากินพืชไร่ของชาวบ้าน แล้วถูกสารพิษ ยาปราบศัตรูพืชจนล้ม ณ จุดดังกล่าว

แพทย์ได้ตัดเนื้อเยื่อกระเพาะส่งตรวจเพื่อหาสาเหตุการล้มที่แท้จริงต่อไป ส่วนการทำลายซากช้าง เจ้าหน้าที่ได้นำปูนขาวมาโรยแล้วทำการฝังกลบเพื่อให้เน่าเปื่อยไปตามธรรมชาติ พร้อมทำพิธีจุดธูปขอขมาต่อช้างป่าก่อนทำการฝังกลบ

ทั้งนี้ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวงมีเนื้อที่ประมาณ 897 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 560,593 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่อำเภอภูเรือ อำเภอภูหลวง และอำเภอด่านซ้าย จ.เลย แต่พื้นที่ป่าได้ถูกบุกรุกแผ้วถาง ขยายพื้นที่ทำการเกษตร ทำให้ป่าเหลือน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันมีช้างป่าอาศัยอยู่ประมาณ 100 ตัว ทำให้แหล่งอาหารช้างป่าลดลง ทำให้ช้างออกไปหากินพืชผลทางการเกษตรของชาวบ้าน เกิดปัญหากระทบกระทั่งกันอยู่เสมอ

โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้ง ซึ่งทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พยายามแก้ปัญหา ทั้งการรณรงค์ให้ชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ป่า การทำรั้วไฟฟ้าและการทำโป่ง หรือปลูกพืช เพิ่มแหล่งอาหารช้าง