อ่างทอง - ชาวบ้านรวมตัวร้องศูนย์ดำรงธรรม ช่วยตรวจสอบสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ หลังผัดผ่อนไม่ยอมจ่ายเงินให้แก่สมาชิกทำให้ได้รับความเดือดร้อน เผยบางรายรอรับเงินมากว่า 2 ปี แต่ก็ยังไม่ได้
วันนี้ (28 พ.ย.) ที่บริเวณศูนย์ดำรงธรรม ที่ว่าการอำเภอวิเศษชัยชาญ ตำบลศาลเจ้าโรงทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง นาง น้ำเพชร มารยาท อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ที่ 6 ตำบลไผ่วง อำเภอวิเศษชัยชาญ พร้อมด้วยชาวบ้านในอำเภอวิเศษชัยชาญ ที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 10 ราย ได้มาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวิเศษชัยชาญ ที่ได้รับความเดือดร้อนจากศูนย์ประสานงานสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ส.เพิ่มพูน ที่ชาวบ้านได้สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์
แต่ชาวบ้านบางส่วนที่มีญาติพี่น้องเสียชีวิตยังไม่ได้รับเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ ซึ่งบางรายต้องรอยาวนานเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี แต่ก็ยังไม่ได้รับแต่อย่างใด ทั้งที่ได้ยื่นเรื่องต่อทางสมาคมฯ ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางสมาคมฯ ได้ทำการผัดผ่อนเรื่อยมา ในวันนี้จึงได้เข้ามาร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวิเศษชัยชาญ ให้ช่วยนำผู้ที่เกี่ยวข้องมาไกล่เกลี่ยในกรณีรับเงินของสมาชิกผู้เสียชีวิต และสมาชิกที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่ได้ทำฌาปนกิจสงเคราะห์กับศูนย์ประสานงานสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ส.เพิ่มพูน ให้ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้บิดเบือนมาตลอด และยังไม่ยอมจ่ายเงิน จนเริ่มมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนกันเป็นจำนวนมาก
ด้าน นางเฉลิมศรี น้ำทิพย์ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 3 ตำบลไผ่วง อำเภอวิเศษชัยชาญ เปิดเผยว่า ญาติของตนเองได้ทำฌาปนกิจสงเคราะห์กับศูนย์ประสานงานสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ส.เพิ่มพูน หลังจากเสียชีวิตลง ตนเองได้ทำการยื่นเรื่องเพื่อที่จะขอรับเงินสงเคราะห์จากสมาคมฯ แต่ทางเจ้าหน้าที่ที่ตนเองไปทำการติดต่อแจ้งว่า จะรับเงินในจำนวนเต็ม 1 แสนบาท หรือจะรับไปก่อน จำนวน 40,000 บาท ตนเองจึงได้ตัดสินใจว่าจะรับเงิน จำนวน 40,000 บาทไปก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ขอเวลาทำการตรวจสอบเอกสารก่อน ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 90 วัน จึงจะได้รับเงิน เมื่อครบ 90 วัน ตนเองเดินทางไปรับเงินแต่เจ้าหน้าที่ได้บอกกับตนเองว่า ให้กลับไปก่อนยังไม่ถึงคิวแล้วจะโทรศัพท์ไปแจ้งให้มารับ จนกระทั่งทุกวันนี้เกือบจะครบ 1 ปีแล้ว ทางสมาคมฯ ก็ยังไม่สามารถจ่ายเงินให้แก่ตนเองได้
ทางด้าน นางน้ำเพชร มารยาท อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 51 หมู่ที่ 6 ตำบลไผ่วง อำเภอวิเศษชัยชาญ แกนนำกล่าวว่า ตนเองพร้อมกับชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนได้รวมตัวกัน จำนวนกว่า 10 ราย เดินทางมาเพื่อเรียกร้องให้ทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวิเศษชัยชาญ ทำการตรวจสอบการทำงานของสมาคมฯ และให้ทางศูนย์ประสานงานสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ส.เพิ่มพูน จ่ายเงินให้แก่สมาชิก หลังจากทราบว่ามีชาวบ้านจำนวนมากทยอยกันมาร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมถึงความไม่โปร่งใส
โดยชาวบ้านเกรงว่า ทางสมาคมฯ ผัดผ่อนไม่ยอมจ่ายเงินให้แก่สมาชิกที่เสียชีวิต และตัดสิทธิสมาชิกที่มีชีวิตอยู่ทำให้ต้องสูญเสียเงินที่ทางสมาชิกได้ส่งให้แก่ทางสมาคมฯ ทุกเดือน ซึ่งจะเข้าข่ายในการฉ้อโกงเงินของประชาชน เนื่องจากการทำฌาปนกิจที่ทำกับสมาคมฯ ผู้ที่ทำฌาปนกิจสงเคราะห์กับทางสมาคมฯ ในระยะเวลา 1 ปี เมื่อเสียชีวิตสมาชิกจะได้เงิน จำนวน 100,000 บาท โดยทางสมาคมฯ จะจ่ายให้เพียง 97,000 บาท ซึ่งจะหักเป็นค่าเดินทางไปตรวจสอบผู้เสียชีวิต จำนวน 3,000 บาท ถ้าเป็นต่างจังหวัดจะหัก 5,000 บาท
โดยจะเรียกเก็บเงินจากสมาชิกเดือนละ 600 บาท รวมกับค่าออกหนังสืออีก 30 บาท เป็น 630 บาทต่อเดือน เมื่อครบกำหนด 1 ปี ถ้าสมาชิกจะต่อสัญญากับสมาคมฯ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกคนละ 200 บาท แต่ถ้าสมาชิกต่อไม่ทันก็จะถูกตัดสิทธิจะต้องสูญเสียเงินที่ส่งไปทั้งหมด ซึ่งสมาชิกบางรายต้องรอเงินค่าฌาปนกิจสงเคราะห์มากว่า 2 ปี สมาชิกบางรายที่ยังไม่เสียชีวิตก็เกรงว่าจะต้องสูญเสียเงินที่ได้ส่งไปแล้ว จึงได้รวมตัวกันเข้ามาร้องเรียนขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรม อำเภอวิเศษชัยชาญ ให้ความช่วยเหลือ
ส่วนทางด้าน นายสุรพล ระลอก ปลัดอำเภอวิเศษชัยชาญ กล่าวว่า ทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวิเศษชัยชาญ ได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านในเรื่องของความไม่โปร่งใสของศูนย์ประสานงานสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ส.เพิ่มพูน ซึ่งที่ผ่านมา ทางศูนย์ดำรงธรรมได้มีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทยอยกันมาร้องเรียนกันเป็นจำนวนมาก โดยทางศูนย์ดำรงธรรมได้ทำหนังสือสอบถามไปยังสมาคมฯ ซึ่งทางสมาคมฯ ได้มีหนังสือตอบกลับมาว่า ทางสมาคมฯ มีปัญหาทางด้านสภาพคล่องทางการเงิน และจะขอผ่อนผันในการชำระเงินให้แก่สมาชิก
โดยวันนี้ได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นายจักร์กริศน์ เย็นฉ่ำ ผู้จัดการศูนย์ประสานงานสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ส.เพิ่มพูน แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้โทรศัพท์ไปสอบถามที่สำนักงาน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่า ผู้จัดการเดินทางไปเฝ้าญาติที่ป่วยหนักอยู่ที่โรงพยาบาลไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอวิเศษชัยชาญ จะทำหนังสือแจ้งไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศูนย์ประสานงานสมาคมฌาปนกิจสงเคราะห์ ส.เพิ่มพูน และประชาชนที่เดือดร้อน ให้เข้ามาดำเนินการไกล่เกลี่ยในเรื่องดังกล่าวต่อไป