ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตามหาความคุ้มค่าเรือพยาบาล-กู้ภัยไฮเทคพัทยา 72 ล้านบาท งบประมาณที่ถูกลืม ทอดสมอจอดตายนับปีรอวันเสื่อมสภาพ แขวงเกาะล้านยันไม่ทราบวัตถุประสงค์จัดซื้อ ที่ผ่านมา ใช้เพียงรับคณะดูงาน ใช้งานไม่คุ้มค่าน้ำมันเหยียบครึ่งแสน ค่าดูแลซ่อมบำรุงนับล้าน จำใจจอดทิ้งในท่า งงขอคืนก็ถูกปฏิเสธ
ประชาชนในเมืองพัทยาสงสัยเป็นอย่างมากกรณีที่เมืองพัทยา ได้รับงบประมาณอุดหนุนพิเศษในการจัดซื้อเรือพยาบาล กู้ภัยไฮเทค ลักษณะแบบเรือยอชต์ 2 ชั้น มูลค่ากว่า 72 ล้านบาท ที่จัดซื้อมาตั้งแต่ปี 49 แต่ปรากฏว่า เรือลำดังกล่าวซึ่งใช้งบประมาณไปจำนวนมหาศาลกลับใช้งานได้เพียง 2-3 ปีเท่านั้น มิหนำซ้ำปัจจุบันเรือลำนี้กลับไม่ได้นำมาปฏิบัติภารกิจใดๆ และไม่มีการใช้งาน หรือมีใครพบเห็นอีกเลย โดยมีกระแสว่า เรือลำดังกล่าวถูกนำไปจอดทอดสมอทิ้งไว้ที่ท่าเรือ โอเชี่ยนมารีน่า ยอร์ช คลับ ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เนื่องจากมีสภาพชำรุด และเสื่อมโทรมจนไม่สามารถใช้งานได้ จึงมองว่าเป็นการใช้งบประ มาณอย่างไม่สมประโยชน์
ทั้งนี้ จากการลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณท่าเทียบเรือโอเชี่ยน มารีน่า ยอร์ช คลับ พบเรือตรวจการณ์พัทยา รหัส 801 ถูกจอดทอดสมอทิ้งไว้ โดยพบว่า ลักษณะเรือเหมือนไม่เคยผ่านการใช้งานมานานแล้ว โดยเรือลำนี้จากการตรวจสอบข้อมูลของการจัดซื้อนั้นพบว่า ต่อขึ้นจากประเทศจีน เป็นเรือไฟเบอร์ทั้งลำ มีขนาด 80 ฟุต 2 ชั้น บรรจุผู้โดยสารได้ 50 คน เครื่องยนต์แบบ 8 สูบ 820 แรงม้า 2 เครื่อง ซึ่งมีความเร็วสูงสุดที่ 22 นอต กินน้ำมันเชื่อเพลิงประมาณ 200-300 ลิตรต่อชั่วโมง
ภายในมีห้องบังคับการ พร้อมเรดาร์จับสัญญาณใกล้เคียงรอบทิศทางในระยะ 30 ไมล์ทะเล ตก แต่งอย่างดี มีเครื่องปรับอากาศ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร บริเวณชั้นล่างตกแต่งให้เป็นห้องพยาบาลมาตรฐานขนาด 3 เตียง มีอุปกรณ์ช่วยหายใจ และอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น
นอกจากนี้ ยังมีเรือท้องแบนเล็กเครื่อง 2 สูบ ไว้คอยช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเลอีก 1 ลำ โดยเรือปฏิบัติการกู้ภัยทางทะเล 801 นี้ สามารถยิงน้ำดับเพลิงได้ระยะทาง 70 เมตร ความเร็ว 6,000 ลิตรต่อนาที ที่แรงดัน 10-12 บาร์ ด้วยการสูบน้ำจากทะเล โดยสามารถยิงได้ทั้งน้ำ และโฟมดับเพลิง ซึ่งตามหลักการณ์แล้วจะต้องมีภารกิจในการดูแลความปลอดภัยในน่านน้ำอ่าวพัทยาตลอด 24 ชม. โดยมีกัปตันเรือ ผู้ช่วยกัปตันเรือ พยาบาลวิชาชีพ ผู้ช่วยพยาบาล ทหารเรือ และช่างเครื่องประจำ รวม 8-9 นาย
ซึ่งจะแบ่งการทำงานออกเป็น 2 กะ ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ปรากฏว่า ปัจจุบันอัตรากำลังดังกล่าวไม่มีการส่งเข้าประจำการ และเรือก็ไม่ได้ใช้งานตามภารกิจที่ได้ตั้งไว้ ก่อนจะส่งมอบเรือให้สำนักงานเมืองพัทยา สาขาเกาะล้าน เป็นผู้ดูแล
ขณะที่จากการโทรศัพท์สัมภาษณ์ นายชวลิต ประดิษฐ์พฤกษ์ รักษาการหัวหน้าสำนักงานเมืองพัทยา สาขาเกาะล้าน เปิดเผยว่า ตั้งแต่ได้เรือมาในอดีตก็ไม่ทราบได้ว่าภารกิจหลักคืออะไร แต่เท่าที่เห็นก็คงจะมีแต่การรองรับผู้บริหารระดับสูงของเมืองพัทยาในการเดินทางไปยังฝั่งเกาะล้านเท่านั้น
ส่วนภารกิจการดับเพลิง และรักษาพยาบาลนั้นถือว่าไม่ค่อยได้ใช้ทำงานมากนัก เนื่องจากเรือลำนี้กินน้ำมันเชื้อเพลิงมาก โดยการเดินทางระหว่างท่าเรือถึงเกาะล้านนั้นจะใช้งบประมาณในการเติมเชื้อเพลิงแต่ละครั้งประ มาณ 5-6 หมื่นบาท จึงไม่ได้นำออกมาใช้ตามภารกิจ แต่จะใช้เรืออื่นที่เมืองพัทยาจัดซื้อมาเพิ่มแทน อีกทั้งเรือลำนี้ต้องแบกภาระในเรื่องของอัตรากำลัง และการดูแลบำรุงรักษาก็ใช้งบประมาณสูงมากอีกด้วย จึงทำได้แต่เพียงการนำมาจอดทอดสมอทิ้งไว้ที่ท่าเฉยๆ กระทั่งเมื่อเวลาผ่านไปนานจึงทำให้เรือมีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องของเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า ระบบแอร์ ปั๊มน้ำท้องเรือ ยางปั๊มน้ำ ระบบไฟ และอื่นๆ ซึ่งหากจะซ่อมแซมคงต้องใช้งบประมาณนับล้านบาท จึงทำได้เพียงการนำขึ้นมาขูดเพรียงที่ตัวเรือปีละครั้งเท่านั้น ซึ่งที่ผ่านมา มีการร้องเรียนผ่านสายตรงสอบถามผ่านทางผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีหลายครั้ง แต่ก็ทำได้เพียงการชี้แจงเบื้องต้น
โดยเรือลำนี้ หลังเมืองพัทยาส่งมอบให้แขวงเกาะล้านเป็นผู้ดูแลก็ยังไม่ทราบว่าจะหางบประมาณจากส่วนใดมาบริหารจัดการ ขณะที่จะทำเรื่องส่งคืนให้แก่เมืองพัทยาก็ถูกปฏิเสธว่าให้แขวงเกาะล้านเป็นผู้ดูแลต่อไป จึงทำให้เพียงการนำมาจอดทิ้งไว้เฉยๆ ไม่ได้ปฏิบัติภารกิจอะไร ส่วนจะคุ้มค่าต่องบประมาณที่เสียไปหรือไม่ก็คงตอบไม่ได้ เพราะเรือมีปัญหาหลายอย่าง และต้องใช้ค่าใช้จ่ายสูงซึ่งอาจไม่คุ้มต่อการนำมาปฏิบัติภารกิจ