หนองคาย - ตรวจคนเข้าเมืองหนองคายรวบแก๊งชายหญิงลอบพาหนุ่มเวียดนามแอบเข้ามาทำงานในไทยเกินกำหนด ขึ้นรถตู้หวังพาไปลาวก่อนกลับเวียดนามถูกรวบคาด่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว
วันนี้ (22 พ.ย. 60) ที่ห้องสืบสวน ตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สมใจประสงค์, พ.ต.ท.หญิง ธาราทิพย์ จำรัส รองผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย, พ.ต.ต.ธีระพงษ์ ประจักษ์จิตร์ สารวัตรตรวจคนเข้าเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายสมบัติ ชาวชายโขง อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 807/11 ต.ในเมือง อ.เมืองหนองคาย, นางอรปภา ศรีรัตนอุดร อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/16 ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี
ข้อหาร่วมกันช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดหรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดเพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยร่วมกันช่วยเหลือผู้นั้นด้วยประการใดๆ เพื่อให้พ้นจากการจับกุม และนายทู ดั้ก คิว อายุ 22 ปี กับนายมาน เกืองปาม อายุ 21 ปี ทั้งสองเป็นชาวเวียดนาม มีหนังสือเดินทางถูกต้องแต่อยู่ในไทยเกินกำหนด โดยนายทู ดั๊ก คิว อยู่เกิน 895 วัน ส่วนนายมาน เกือง ปาม อยู่เกิน 615 วัน ทั้งสองถูกแจ้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด
พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สมใจประสงค์ รอง ผกก.ตม.หนองคาย กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีนายหน้าแอบพาชาวเวียดนามที่อยู่เกินกำหนดออกนอกประเทศโดยผ่านทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ กระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. วันเดียวกัน พบรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน 30-0282 หนองคาย มีนายสมบัติเป็นคนขับและมีอาชีพขับรถตู้โดยสารประจำด่านสะพานอยู่แล้ว นายสมบัติได้ขับรถผ่านจุดตรวจของเจ้าหน้าที่ ตม.โดยไม่จอดรถให้เจ้าหน้าที่ตรวจ
จึงได้สกัดเรียกให้หยุด ตรวจดูภายในรถพบชาวเวียดนามทั้งสองคนนั่งอยู่เบาะด้านหลังสุด จึงคุมตัวไว้ก่อน ซึ่งนายสมบัติคนขับรถยอมรับและซัดทอดว่านางอรปภาเป็นคนพาชาวเวียดนามทั้งสองคนมาส่งให้ตนที่ด่านสะพานให้ตนพาข้ามไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ โดยให้ค่าจ้างตน 1,000 บาท แล้วนางอรปภาได้รีบขึ้นรถโดยสารประจำสะพานทันที เจ้าหน้าที่จึงรีบตามไปจับกุมนางอรปภาไว้ได้ทันควัน
นางอรปภารับสารภาพว่า ตนเห็นชาวเวียดนามทั้งสองคนต้องการกลับประเทศ จึงเรียกเก็บเงินค่านำพาคนละ 3,000 บาท จากนั้นพาเดินทางจาก บขส.อุดรธานี มาส่งให้นายสมบัติให้พาไปเวียงจันทน์แล้วทั้งสองคนจะหาวิธีการกลับเวียดนามเอง
ขณะที่ชาวเวียดนามทั้งสองคนได้เดินทางมาท่องเที่ยวแล้วแอบทำงานเป็นลูกจ้างร้านอาหารที่จังหวัดภูเก็ต ก่อนหน้านี้เคยถูกหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ตในข้อหาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาตมาแล้ว และทราบว่าในเร็วๆ นี้ตรวจคนเข้าเมืองจะกวดขันชาวต่างชาติลักลอบเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมาย กลัวว่าจะถูกจับจึงหาทางกลับก่อน และว่าจ้างให้นางอรปภาช่วยหลบหนีออกนอกประเทศ แต่ก็มาถูกจับเสียก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อทั้งหมดต่อไป