ศรีสะเกษ - ผู้นำกองเชียร์ทีมกูปรีอันตราย ช็อกหลังทราบข่าวผู้บริหารศรีสะเกษเอฟซี ตกเป็นข่าวล้มบอล หวั่นสมาคมฟุตบอลฯ เอาผิดยุบทีมศรีสะเกษเอฟซี ย้ำให้ล้างมาเฟียร์วงการฟุตบอลให้ถึงที่สุด พร้อมแนะผู้บริหารปล่อยวาง ให้คนอื่นที่รักทีมกูปรีอันตรายมาบริหารต่อ ยันจะตามเชียร์ทีมกูปรีอันตรายอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายเชิดศักดิ์ บุญชู ผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ เอฟซี ทีมฟุตบอลฉายากูปรีอันตราย ของ จ.ศรีสะเกษ พร้อมพวกรวม 12 คน ได้ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการล้มบอล ล็อกผลบอล ถูกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมาย และได้รับการประกันตัวออกมา ด้านบรรยากาศด้านหน้าสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษเอฟซี พบว่าบรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ผู้บริหารสโมสรต่างเก็บตัวเงียบ ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านเลขที่ 310 หมู่ 11 ต.หญ้าปล้อง อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ที่ตั้งของร้านเลิศอีสาน ร้านจำหน่ายอาหารอีสานชื่อดัง จ.ศรีสะเกษ พบกับนายวิทยา อินทวี อายุ 51 ปี เจ้าของร้านและเป็นผู้นำกองเชียร์ทีมกูปรีอันตราย ศรีสะเกษเอฟซี โดยนายวิทยากำลังนั่งติดตามข่าวสารของการล้างมาเฟียพนันบอลทางโชเชียลเน็ตเวิร์ก ที่มีการแถลงข่าวของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมทั้งประสานไปยังกลุ่มกองเชียร์กูปรีอันตราย เพื่อให้ทราบถึงความเคลื่อนไหวเรื่องนี้ ที่มีนายเชิดศักดิ์ บุญชู ผอ.สโมสรศรีสะเกษเอฟซี เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
นายวิทยา อินทวี ผู้นำกองเชียร์ทีมกูปรีอันตราย ศรีสะเกษเอฟซี กล่าวว่า ตนเป็นผู้นำกองเชียร์ของกูปรีอันตรายมานานกว่า 10 ปีแล้ว เมื่อทราบข่าวนี้แล้วถึงกับช็อก เพราะคิดไม่ถึงว่านายเชิดศักดิ์ บุญชู ที่เป็นถึงระดับผู้บริหารสโมสรตกเป็นผู้ต้องหาคดีนี้ ตนและกองเชียร์ทุกคนรู้สึกผิดสังเกตในฟอร์มการเล่นของนักบอลกูปรีในระดับไทยลีกของทีมกูปรีอันตรายปีนี้มานานแล้วหลายเดือน เนื่องจากว่าฟอร์มการเล่นไม่เหมือนเดิม บางนัดน่าจะชนะแต่กลับแพ้ หรือว่าเสมอไปอย่างน่าสงสัย และเมื่อมีข่าวนี้ออกมาตนเริ่มจะหายสงสัยแล้วว่าเพราะอะไรทีมกูปรีอันตรายจึงตามหาคำว่าชนะไม่เจอ จนกระทั่งฤดูกาลหน้านี้คาดว่าจะต้องตกชั้นไทยลีกแน่นอนแล้ว
นายวิทยากล่าวต่อไปว่า แม้ว่าทีมจะต้องตกชั้น แต่ว่าตนกับพวกจะยังตามเชียร์กูปรีไปอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง การที่ทีมตกชั้นตนไม่รู้สึกเสียใจมาก เท่ากับประเด็นมีผู้บริหารของทีมเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการล้มบอล ล็อกผลบอล อาจจะทำให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยและองค์กรที่เกี่ยวข้องอาจสั่งยุบทีมกูปรีอันตรายได้ ตนภาวนาว่าขออย่าให้มีโทษถึงกับยุบทีมกูปรีอันตราย หากใครทำความผิดอะไรก็ควรจะรับโทษไปตามความผิดของแต่ละคน คาดว่าอาจจะมีหลายคนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ตนขอให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยดำเนินการเรื่องนี้ให้ชัดเจนล้างบางพวกมาเฟียให้ถึงที่สุดด้วย
“ขอฝากไปถึงนายธเนศ เครือรัตน์ ประธานสโมสรฟุตบอลศรีสะเกษ เอฟซี ด้วยว่า การที่มีข่าวนี้ออกมาสร้างความเสียหายแก่ทีมกูปรีอันตรายมาก ขอเสนอแนะว่าหากนายธเนศไม่สามารถบริหารทีมฟุตบอลต่อไปได้ก็ควรปล่อยวาง เพื่อเปิดโอกาสให้แก่คนที่มีใจรักและมีความพร้อมเข้ามาบริหารงานทีมกูปรีอันตรายแทน ผมมั่นใจว่า จ.ศรีสะเกษ มีบุคคลที่จิตใจรักทีมกูปรีอันตรายเข้ามาสานต่อและพัฒนาทีมให้ดีขึ้นกว่าเดิมได้ ขอเสนอแนะด้วยความบริสุทธิ์ใจ อย่างไรผมกับพวกก็จะเชียร์ทีมกูปรีอันตรายอย่างเต็มที่ตลอดไป แม้ว่าผู้บริหารของสโมสรจะทำเรื่องเสียหายอย่างร้ายแรงครั้งนี้ก็ตาม” นายวิทยากล่าว
ขณะเดียวกัน บรรยากาศที่บริเวณสนามซ้อมบอลของทีมกูปรีอันตรายก็ค่อนข้างเงียบเหงาเนื่องจากเป็นช่วงปิดฤดูกาล นักฟุตบอลต่างพากันแยกย้ายกลับไปพักผ่อน และไม่พบว่ามีผู้บริหารของสโมสรเข้ามาที่บริเวณสนามซ้อมฟุตบอลแต่อย่างใด